วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การถอนเงิน PayPal



สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเกี่ยวกับการถอนเงินกัน
วิธีการถอนเงิน ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณลได้งทะเบียนไว้ คุณสามารถถอนเงินจากบัญชีของคุณด้วยวิธีต่อไปนี้
- โอนทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าบัญชีธนาคารในประเทศ
- โอนทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าบัตรที่มีสัญลักษณ์ Visa ของคุณ
- โอนผ่านการโอนเงินอัตโนมัติที่มี PayPal เป็นผู้เริ่มดำเนินการ ไปยังเครื่องมือทางการเงินที่คุณได้เชื่อมโยงไว้
- โดยขอให้ส่งเช็คมาทางไปรษณีย์ ในบางประเทศคุณอาจต้องใช้บริการ PayPal Retiros หากคุณต้องการถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในพื้นที่ PayPal Retiros อาจมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับสกุลเงินที่แตกต่าง สกุลเงินที่คุณสามารถถอนเข้าบัญชีธนาคารท้องถิ่นของคุณได้อาจถูกจำกัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณลงทะเบียนบัญชีไว้ด้วย โดยเมื่อคุณถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศของคุณ คุณจะสามารถถอนเงินได้เฉพาะในสกุลเงินท้องถิ่นของคุณ หากคุณมียอดคงเหลือในสกุลเงินต่างประเทศ คุณจะสามารถถอนเงินทั้งหมด หรือบางส่วน จากยอดคงเหลือดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อมีการแปลงเป็นสกุลเงินท้องถิ่น ในกรณีที่คุณถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศของคุณ

ยอดคงเหลือในบัญชี PayPal



สวัสดีครับ วันนี้เรามาพูดถึงเกี่ยวกับยอดเงินคงเหลือในบัญชี PayPal กันนะครับ
- สำหรับยอดคงเหลือ หากคุณมียอดเงินคงเหลือในบัญชี ทาง PayPal เองก็จะเก็บเงินของคุณไว้ในระบบบัญชีรวม โดยแยกออกจากเงินของบริษัท และ PayPal จะไม่นำเงินของคุณมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดของบริษัท PayPal จะไม่ยินยอมโดยสมัครใจทำให้เงินของคุณตกเป็นทรัพย์สินที่อาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ในคดีล้มละลายของ PayPal คุณจะไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือรายได้อื่น จากจำนวนเงินในยอดเงินคงเหลือของคุณ PayPal อาจได้รับดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่ PayPal ถือครองไว้ในนามของคุณ โดยที่คุณตกลงที่จะโอนสิทธิในดอกเบี้ยใดๆ ที่ได้จากเงินของคุณให้แก่ PayPal
- สำหรับการหักกลบลบหนี้ที่ค้างชำระ ในกรณีที่คุณมียอดค้างชำระที่เป็นหนี้บริษัทในเครือ บริษัทลูก หรือบริษัทแม่ของ PayPal ในกรณีนี้ PayPal สามารถหักเงินจากบัญชีของคุณเพื่อชำระหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 180 วันได้
- สำหรับยอดเงินคงเหลือติดลบและสกุลเงิน หากบัญชีของคุณมียอดคงเหลือติดลบ PayPal อาจหักกลบลบหนี้ที่เกิดจากยอดคงเหลือติดลบนั้น ด้วยเงินจำนวนใดๆ ที่คุณเพิ่มหรือได้รับเข้าบัญชีของคุณในภายหลัง ในกรณีที่คุณมียอดเงินคงเหลือในหลายสกุลเงินในบัญชีของคุณ และยอดเงินคงเหลือในสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งติดลบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม PayPal อาจหักกลบลบหนี้ที่เกิดจากยอดเงินคงเหลือติดลบนั้น กับยอดเงินคงเหลือที่คุณมีในสกุลเงินอื่นได้

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การชำระเงิน PayPal (ต่อ)



สวัสดีครับ ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
- การชำระเงินที่ถูกปฏิเสธและถูกส่งคืน เมื่อคุณชำระเงิน ผู้รับไม่จำเป็นต้องยอมรับเงินนั้น การชำระเงินที่ไม่ได้รับการขึ้นเงิน ถูกส่งคืน หรือถูกปฏิเสธ จะถูกส่งกลับคืนเป็นยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณ หรือส่งคืนไปตามวิธีการชำระเงินที่คุณใช้ PayPal จะส่งคืนเงินที่ชำระแต่ไม่ได้รับการขึ้นเงินกลับไปให้คุณภายใน 30 วันหลังจากวันที่คุณได้ชำระเงิน
- ความล่าช้าในการดำเนินการของผู้ค้า เมื่อคุณชำระเงินให้แก่ผู้ค้ารายใดรายหนึ่ง เท่ากับคุณได้อนุญาตให้ผู้ค้ารายนั้นดำเนินการกับเงินที่คุณชำระ และทำรายการจนเสร็จสมบูรณ์ เราจะถือว่าการชำระเงินนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ จนกว่าผู้ค้าจะดำเนินการกับเงินที่คุณชำระ ผู้ค้าบางรายอาจใช้เวลานานในการดำเนินการกับเงินที่คุณชำระ ในกรณีดังกล่าว การอนุญาตของคุณจะยังคงมีผลไม่เกิน 30 วัน หากการชำระเงินของคุณต้องมีการแปลงสกุลเงิน ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินในอัตรา ณ เวลาที่ผู้ค้าดำเนินการกับเงินที่คุณชำระ และทำรายการนั้นให้เสร็จสมบูรณ์
- การชำระเงินที่อนุมัติไว้ คือการชำระเงินที่คุณอนุญาตให้ผู้ค้าเรียกเก็บจากบัญชีของคุณโดยตรงในครั้งเดียว เป็นประจำ หรือเป็นครั้งคราว การชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้าบางครั้งอาจเรียกว่า การชำระเงินแบบบอกรับสมาชิก การชำระเงินเป็นงวด การโอนเงินที่ได้รับอนุญาตไว้ล่วงหน้า การชำระเงินอัตโนมัติ
- การยุติการชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้า คุณอาจยุติการชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้าไว้ โดยการแจ้งมายัง PayPal เมื่อใดก็ได้ แต่ต้องไม่ช้าไปกว่า 3 วันทำการก่อนวันกำหนดชำระเงินครั้งถัดไป หากต้องการยุติการชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้า ให้เข้าไปที่ส่วน การชำระเงินที่ฉันอนุมัติไว้ล่วงหน้า ของข้อมูลบัญชี และไปตามลิงก์เพื่อยุติการชำระเงิน คุณยังสามารถยุติการชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้าไว้ โดยการโทรไปยัง PayPal ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1-402-935-2050 ในสหรัฐ เมื่อคุณติดต่อ PayPal ให้ทำการยุติการชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้า การชำระเงินในอนาคตทั้งหมดภายใต้ข้อตกลงที่คุณทำไว้กับผู้ค้าก็จะยุติลงด้วยเช่นกัน ถ้าคุณยุติการชำระเงินที่อนุมัติไว้ล่วงหน้า คุณอาจจะยังคงต้องรับผิดชอบต่อผู้ค้าในการชำระเงินนั้นๆ หรือในเบี้ยปรับอื่นๆ ภายใต้ข้อกำหนดของข้อตกลงที่่คุณทำไว้กับผู้ค้า และคุณอาจจะต้องชำระเงินให้แก่ผู้ค้าด้วยวิธีการอื่น

การชำระเงิน PayPal



สวัสดีครับ สำหรับครั้งนี้เรามาพูดถึงการชำระเงินนะครับ
- วงเงินที่ชำระได้ เราอาจจำกัดวงเงินสำหรับจำนวนเงินที่คุณสามารถชำระผ่านบริการ PayPal ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเรา คุณสามารถดูการจำกัดวงเงินของคุณ โดยเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณและคลิกลิงก์ ดูวงเงินจำกัด ในหน้า ภาพรวมบัญชี บัญชีที่ได้รับการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลแล้วเราอาจเพิ่มวงเงินที่ชำระได้ของคุณ
- วิธีการชำระเงินในกรณีที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นการเฉพาะ เมื่อคุณทำการชำระเงิน หากคุณไม่ได้ระบุวิธีการชำระเงินหลักไว้ PayPal จะหักเงินเพื่อทำรายการ โดยวิธีการตามลำดับดังนี้ อาจเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีการชำระเงินของคุณและประเทศที่คุณจดทะเบียนบัญชี
1.ยอดคงเหลือการโอนเงินทันทีจากบัญชีธนาคารของคุณ
2.บัตรเดบิต
3.บัตรเครดิต
4.eCheque
***หากคุณไม่ต้องการใช้ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณ คุณต้องถอนเงินก่อนทำการชำระเงิน
- วิธีการชำระเงินหลัก คุณสามารถระบุวิธีการชำระเงินหลักที่ต้องการใช้ในแต่ละครั้งที่ทำการชำระเงินได้ ทั้งนี้ยกเว้นการชำระเงินแบบอนุมัติล่วงหน้า หรือการชำระเงินโดยไม่เข้าสู่ระบบ
สำหรับการชำระเงินที่อนุมัติล่วงหน้าและในกรณีส่วนใหญ่ของการชำระเงินโดยไม่เข้าสู่ระบบ คุณสามารถระบุวิธีการชำระเงินหลักได้ เมื่อคุณได้อนุญาตให้ทำการชำระเงินในครั้งแรก และไปที่ การชำระเงินที่ฉันอนุมัติล่วงหน้า ของข้อมูลบัญชี
หากคุณระบุวิธีการชำระเงินหลักไว้ แต่บัญชีของคุณมียอดเงินคงเหลือที่ใช้ได้ ทาง PayPal จะใช้ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณในการชำระเงิน หากคุณระบุวิธีการชำระเงินหลักไว้เป็น eCheque  PayPal จะใช้ eCheque ในการชำระเงิน แม้ว่าคุณจะมียอดเงินคงเหลือก็ตาม PayPal อาจจำกัดวิธีการชำระเงินที่คุณสามารถใช้ได้ในการทำรายการแต่ละครั้ง
ต่อกันที่บทความหน้านะครับ

เกณฑ์คุณสมบัติในการใช้งาน PayPal (ต่อ)



สวัสดีครับ เรามาต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
- การยอมรับว่าคุณจะไม่บังคับเก็บเงินเพิ่มเติมหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ในการรับชำระเงินด้วย PayPal คุณอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการ ตราบใดที่ค่าธรรมเนียมการจัดการนั้นไม่สูงกว่าค่าธรรมเนียมการจัดการที่คุณเรียกเก็บจากการทำรายการที่ไม่ใช้ PayPal
- การรับชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัว หากคุณขายสินค้าหรือบริการ คุณจะต้องไม่ขอให้ผู้ซื้อชำระเงินโดยการชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้แก่คุณ
- การชำระเงินที่อนุมัติล่วงหน้าหรือการชำระเงินโดยไม่เข้าสู่ระบบ หากคุณรับการชำระเงินที่อนุมัติล่วงหน้าหรือการชำระเงินโดยไม่เข้าสู่ระบบ คุณจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ซื้อของคุณ โดยระบุจำนวนเงินที่ชำระและระยะเวลาที่ชำระ ก่อนที่จะเริ่มการชำระเงินนั้น
- Micropayment สำหรับสินค้าดิจิตอล หากคุณต้องการมีสิทธิรับการชำระเงิน Micropayment สำหรับสินค้าดิจิตอล คุณต้องส่งใบสมัครและได้รับอนุมัติจาก PayPal คุณจะต้องมีบัญชีอยู่ในสถานะที่ดี ในการสมัคร Micropayment สำหรับสินค้าดิจิตอลนั้น คุณตกลงว่าการทำรายการสำหรับสินค้าดิจิตอล คุณจะได้รับเงินในจำนวนที่ไม่เกินจำนวนตามที่ระบุในตารางด้านล่าง และในกรณีที่ผู้ซื้อเปิดข้อพิพาท PayPal สามารถยกเลิกการทำรายการ และหักเงินออกจากบัญชีของคุณได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ซื้อยกระดับข้อพิพาทเป็นข้อเรียกร้อง

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เกณฑ์คุณสมบัติในการใช้งาน PayPal



สวัสดีครับ วันนี้เรามาพูดถึง คุณสมบัติในการใช้งาน PayPal กันบ้าง
- ประเทศที่มีบริการโอนเงินอัตโนมัติ หากคุณเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศที่มีบริการโอนเงินอัตโนมัติ คุณจะมีความสามารถในการรับชำระเงิน แต่คุณจะต้องถอนเงินที่ได้รับเต็มจำนวนผ่านวิธีการถอนเงินที่มีอยู่ หากคุณไม่ดำเนินการดังกล่าว จะมีการถอนเงินโดยอัตโนมัติเป็นประจำออกจากบัญชีของคุณตามวิธีการถอนเงินที่คุณกำหนดไว้
- ความรับผิดต่อการชำระเงินที่ถูกเพิกถอน เมื่อคุณรับชำระเงิน คุณต้องรับผิดต่อ PayPal ในจำนวนเงินที่ชำระให้แก่คุณเต็มจำนวนพร้อมด้วยค่าธรรมเนียม ในกรณีที่การชำระเงินนั้นถูกเพิกถอนในภายหลัง ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ซึ่งหมายความว่า นอกจากความรับผิดอื่นแล้ว คุณยังต้องรับผิดชอบจำนวนเงินที่ผู้ชำระได้ชำระให้แก่คุณ รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ ในกรณีที่คุณถูกปฏิเสธการชำระเงิน หรือในกรณีที่มีการตีคืนการชำระเงิน
การตกลงให้ PayPal ได้รับคืนเงินเมื่อถึงกำหนดชำระให้แก่ PayPal โดยหักจากยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณ ถ้ายอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณมีไม่พอที่จะชดใช้ความรับผิดของคุณ คุณจะต้องจ่ายเงินคืนให้ PayPal ด้วยวิธีอื่น ในกรณีที่ผู้ชำระเงินยื่นเรื่องปฏิเสธการชำระเงิน ผู้ออกบัตรเครดิต ไม่ใช่ PayPal จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ในการปฏิเสธการชำระเงิน
ต่อที่บทความหน้านะครับ

บริการชำระเงินและคุณสมบัติของผู้ใช้บริการ PayPal (ต่อ)



มาต่อกันจากบทความที่แล้วนะครับ
คุณสามารถอัปเดตที่อยู่อีเมล์หลักหรือที่อยู่ไปรษณีย์ของคุณได้ตลอดเวลาโดยเข้าสู่ระบบที่เว็บไซต์ PayPal หากที่อยู่อีเมล์ของคุณไม่ถูกต้องและส่งผลให้ข้อมูลข่าวสารที่ PayPal ส่งถึงคุณถูกตีกลับ PayPal อาจถือว่าบัญชีของคุณเป็นบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน และคุณจะไม่สามารถทำรายการด้วยบัญชี PayPal ของคุณได้ จนกว่าทาง PayPal จะได้รับที่อยู่อีเมล์หลักที่สามารถใช้งานได้จากคุณ
สำหรับการยืนยันตัวบุคคล คุณอนุญาต PayPal ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยผ่านบุคคลที่สาม ให้ทำการสอบถามข้อมูลตามที่PayPal เห็นว่าจำเป็น เพื่อตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของตัวคุณ ซึ่งอาจรวมถึงการขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติมจากคุณ การขอให้คุณแสดงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีหรือหมายเลขประจำตัวบัตรประชาชน การขอให้คุณต้องทำตามขั้นตอนการยืนยันความเป็นเจ้าของที่อยู่อีเมล์หรือเครื่องมือทางการเงินของคุณ
การอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับรายงานข้อมูลเครดิต หากคุณเปิดบัญชีบุคคลพรีเมียร์ หรือบัญชีธุรกิจ ถือว่าคุณได้สั่งและอนุญาตเป็นหนังสือตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่ใช้บังคับ ให้ PayPal ขอรับรายงานข้อมูลเครดิตของคุณและ/หรือของธุรกิจจากศูนย์ข้อมูลเครดิต นอกจากนี้คุณยังอนุญาตให้ PayPal รับรายงานข้อมูลเครดิตของคุณ

บริการชำระเงินและคุณสมบัติของผู้ใช้บริการ PayPal



สวัสดีครับวันนี้เราจะมาพูดถึง บริการชำระเงินและคุณสมบัติของผู้ใช้บริการ PayPal
- บริการชำระเงิน PayPal เป็นผู้ให้บริการชำระเงิน และทำหน้าที่ดังกล่าวโดยการสร้าง โฮสต์ ดูแล และให้บริการ PayPal ของเราแก่คุณผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต บริการของ PayPal ทำให้คุณสามารถชำระเงินให้แก่บุคคลอื่นที่มีบัญชี PayPal และสามารถใช้รับการชำระเงินได้ บริการที่มีจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เพื่อดูว่าในประเทศที่คุณอาศัยอยู่มีบริการประเภทใดบ้าง

PayPal ไม่ใช่ธุรกิจส่งเงินหรือบริการโอนเงิน และไม่สามารถใช้ฟีเจอร์การชำระเงินส่วนบุคคลเพื่อส่งเงินให้แก่บุคคลที่สามได้

PayPal ไม่สามารถควบคุมใดๆ และไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีการชำระด้วยบริการของ PayPal ไม่สามารถรับรองได้ว่าผู้ซื้อและผู้ขายที่คุณดำเนินธุรกิจด้วยนั้นจะทำรายการเสร็จสมบูรณ์จริง
- คุณสมบัติของผู้ใช้บริการ หากต้องการมีสิทธิในใช้บริการ PayPal คุณต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปีหรือมากกว่า โดยเป็นไปตามอายุของผู้บรรลุนิติภาวะ และเป็นผู้อาศัยอยู่ในประเทศที่ระบุในหน้าบริการ
- ข้อมูลการติดต่อของคุณ คุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการอัปเดตที่อยู่อีเมลหลักของคุณเป็นข้อมูลปัจจุบันเสมอ เพื่อให้ PayPal สามารถติดต่อสื่อสารกับคุณทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ คุณเข้าใจและยอมรับว่าหาก PayPal ส่งข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ถึงคุณแต่คุณไม่ได้รับ เนื่องจากที่อยู่อีเมลหลักที่คุณให้ไว้กับ PayPal ไม่ถูกต้อง เป็นข้อมูลเก่า ถูกบล็อคโดยผู้ให้บริการ หรือคุณไม่สามารถรับข้อมูลข่าวสารทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยเหตุผลอื่นใด จะถือว่า PayPal ได้ส่งข้อมูลข่าวสารดังกล่าวถึงคุณแล้ว โปรดทราบว่า หากคุณใช้ตัวกรองอีเมลขยะที่บล็อคหรือเปลี่ยนเส้นทางของอีเมลจากผู้ส่งที่ไม่ได้อยู่ในสมุดที่อยู่อีเมลของคุณ คุณจะต้องเพิ่ม PayPal ลงในสมุดที่อยู่อีเมลของคุณ เพื่อให้คุณสามารถรับข้อมูลข่าวสารที่เราส่งถึงคุณได้
มาต่อกันที่บทความหน้านะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อีเบย์ร่วมกับไปรษณีย์ไทยเช็คสถานะสินค้าออนไลน์



นายมาร์ค คาร์เจส ประธานด้านเทคโนโลยีและรองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจโกรบอล โพรดัคส์ อีเบย์ มาร์เก็ตเพลส เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โทรศัพท์เคลื่อนที่กลายเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกประเภทหนึ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อขายสินค้าได้ทุกที่ อีเบย์จึงสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้มีความสะดวกง่ายดายและคล่องตัวยิ่งขึ้น ด้วยแอพพลิเคชั่น RedLaser เพื่อช่วยให้นักช็อปสามารถค้นหาสินค้าได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้ผู้ขายบนอีเบย์สามารถประกาศขายสินค้าได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
นอกจากนี้ อีเบย์ยังเตรียมนำโปรแกรมสแกนบาร์โค้ด RedLaser ผนวกกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ของอีเบย์บนไอโฟน อาทิ แอพพลิเคชั่นอีเบย์ มาร์เก็ตเพลส (Ebay Marketplace) อีเบย์ เซลลิ่ง (Ebay Selling) สตับฮับ (StubHub) และช็อปปิ้งดอทคอม (Shopping.com) เพื่อทำให้ผู้ใช้กว่า 10 ล้านคนสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังทำให้การขายและการเปรียบเทียบสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดาย นอกจากนี้ แอพพลิเคชันอีเบย์ เซลลิ่ง ยังเป็นแอพพลิเคชั่นชนิดแรกบนไอโฟนที่ใช้เทคโนโลยีสแกนบาร์โค้ด RedLaser เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการขายสินค้าออนไลน์ โดยขณะนี้ อีเบย์อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนแอพพลิเคชัน RedLaser จากการเป็นโปรแกรมที่มีค่าใช้จ่ายเป็นโปรแกรมอิสระเปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดฟรี และเตรียมผนวกรวมโปรแกรมดังกล่าวกับสินค้าที่ประกาศขายบนอีเบย์กว่า 200 ล้านรายการ สินค้าคงคลังจากผู้ค้าทั่วโลกบน Shopping.com กว่า 7,000 ราย และนักขายปลีกออนไลน์ 95 ราย จากทำเนียบนักขายปลีกออนไลน์ดีเด่น 100 อันดับแรก เพื่อเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าแก่ผู้บริโภค
มีการคาดการณ์ว่า การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรองรับการทำธุรกิจผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ของอีเบย์จะก่อให้เกิดมูลค่าการซื้อขายสินค้ารวม (GMV) ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปีนี้ จากความนิยมของลูกค้าอีเบย์และผู้ใช้ไอโฟน แบล็คเบอร์รี่ และแอนดรอยด์ มากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก เปิดให้บริการใน 8 ภาษา จึงมียอดการซื้อขายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้แอพพลิเคชั่นของอีเบย์ทุก 2 วินาที โดยเทคโนโลยี RedLaser สามารถใช้ได้กับแอพพลิเคชั่นหลากหลายประเภท ได้แก่ ระบบแสดงรายการช็อปปิ้งสินค้าอุปโภคบริโภค ระบบลงทะเบียนของขวัญ และระบบติดตามข้อมูลทางโภชนาการ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดโปรแกรม RedLaser บนไอโฟนได้ฟรี
ทั้งนี้ อีเบย์ยังประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้นำบริการโลจิสติกส์ครบวงจรในประเทศไทย สนับสนุนผู้ค้าขายผ่านตลาดออนไลน์ ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านระบบติดตามและตรวจสอบสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศของไปรษณีย์ไทย ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการส่งสินค้าออกนอกประเทศได้ภายใน 2-3 วัน ผ่านระบบ Track & Trace ของไปรษณีย์ไทย

วิธีการประเมินสินค้าที่ขายบนเว็บไซต์อีเบย์แล้วได้กำไร (ตอนจบ)



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
ตัวเลขการลิสต์สินค้า 10 ชิ้น แต่ขายได้จริง 5 ชิ้น มีชื่อเรียกว่า Conversion Rate หรือ Success Rate หรือใน Terapeak เรียกว่า Sell-Through ตัวเลขนี้มีความสำคัญไม่แพ้ตัวเลขยอดขายเฉลี่ยเลย ผู้ขายบางคนเข้าใจว่าใช้แค่ Listing Fee ก็พอ แต่ความจริงแล้วต้องเอา Conversion Rate มาคิดร่วมด้วย
ถ้าลิสต์สินค้า 10 ชิ้น ขายได้ทั้ง 10 ชิ้น Conversion Rate เท่ากับ 100%
ถ้าลิสต์สินค้า 10 ชิ้น ขายได้ 5 ชิ้น Conversion Rate เท่ากับ 50%
ถ้าลิสต์สินค้า 100 ชิ้น ขายได้ 33 ชิ้น Conversion Rate เท่ากับ 33%
ถ้ามี Listing Fee $0.55 แต่มี Conversion Rate 33% ต้นทุนค่า Listing Fee ต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้นจะเท่ากับ $0.55 x (1 / 0.33) = $1.67
Final Value Fee
ค่า Final Value Fee หรือค่าธรรมเนียมจากราคาสุดท้าย เป็นค่าธรรมเนียมที่อีเบย์จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาขายสินค้า โดยเริ่มต้นที่ 8.75% สำหรับราคาขายที่ไม่เกิน $25
PayPal Fee
ค่าธรรมเนียมการรับเงินผ่าน PayPal สำหรับผู้ค้าชาวไทยจะเริ่มต้นที่ 3.9% + $0.30 แต่ถ้ายอดขายต่อเดือนเพิ่มมากขึ้นจนถึงอัตราที่กำหนด PayPal จะลดส่วน 3.9% ซึ่งเป็นต้นทุนผันแปรลง แต่ส่วน $0.30 ซึ่งเป็นต้นทุนคงที่ (ค่าตัดบัตรเครดิต) จะไม่เปลี่ยน
ตัวอย่างการคำนวณหากำไร
สมมุติว่าคุณกำลังคิดจะขายพลอย โดยที่คุณมีต้นทุนค่าพลอยอยู่ที่เม็ดละ $20 หลังจากที่ใช้ Terapeak ทำให้รู้ว่าราคาขายเฉลี่ยของพลอยที่คุณจะขายอยู่ที่เม็ดละ $25 และมี Sell-Through 60% ถามว่าคุณควรจะขายพลอยในอีเบย์ หรือไม่
จากสมการ กำไร = ราคาขาย – ต้นทุน ในที่นี้คุณมีตัวเลขราคาขายเฉลี่ยอยู่แล้ว ที่ต้องคำนวณเพิ่มก็คือต้นทุนต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้น
เริ่มจากคำนวณต้นทุน Listing Fee ต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้น ถ้าคุณลงประกาศขายด้วยราคาประมูลเริ่มต้นที่ $0.99 และไม่ใช้ Listing Upgrade เลย คุณจะเสียค่า Listing Fee $0.55 ต่อหนึ่งลิสต์ คำนวณต้นทุน Listing Fee ต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้นเท่ากับ $0.92
ค่า Final Value Fee ในกรณีที่ขายสินค้าได้ราคา $25 = $25 x 8.75% = $2.19
ค่า PayPal Fee = ($25 x 3.9%) + $0.30 = $1.28
ค่า Withdrawal Fee = $25 x 2.5% = $0.63
จะเห็นได้ว่าผลออกมาคือขาดทุน ทั้งที่ดูเผินๆ แล้วจะเห็นว่าส่วนต่างของราคาขาย $25 กับต้นทุนสินค้า ($20 มีช่องว่างอยู่พอสมควร แต่พอคำนวณต้นทุนทั้งหมดรวมเข้าไปกลับกลายเป็นขาดทุนไปเลย

วิธีการประเมินสินค้าที่ขายบนเว็บไซต์อีเบย์แล้วได้กำไร (ต่อ)



หลังจากที่ Watch สินค้าไว้แล้ว พอสินค้าจบประมูล ก็ให้รวบรวมราคาปิดของสินค้าทุกชิ้นมารวมกันเพื่อหาค่าเฉลี่ย สินค้าชิ้นไหนขายไม่ได้ก็ไม่ต้องนำมาเฉลี่ยรวมด้วย คุณก็จะได้ราคาขายเฉลี่ยของสินค้าเพื่อนำมาคำนวณหากำไรต่อไป
ต้นทุน
ต้นทุนในการทำธุรกิจอีเบย์มีอยู่หลายส่วนได้แก่ Listing Fee, Final Value Fee, PayPal Fee, Withdrawal Fee, ต้นทุนสินค้าและค่าโสหุ้ยทั่วไป
ต้นทุนทั้งหมดจะต้องถูกคำนวณให้อยู่ภายใต้เกณฑ์เดียวกันคือ ต้นทุนต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้น ต้นทุนอย่าง Withdrawal Fee หรือค่าธรรมเนียมการถอนเงินจาก PayPal มาเป็นเงินบาท ซึ่งปกติคิดจากการสะสมยอดรายได้ของการขายสินค้าหลายๆ ชิ้นรวมกัน ก็จะต้องคิดแยกเป็นต้นทุนของสินค้าหนึ่งชิ้น หรือค่าโสหุ้ยทั่วไปอย่างเช่นค่าจ้างพนักงานถ่ายรูปสินค้า ก็จะต้องเฉลี่ยออกมาเป็นต้นทุนต่อสินค้าหนึ่งชิ้นด้วย
Listing Fee
Listing Fee ประกอบด้วย Insertion Fee ค่านำสินค้าไปแสดงบนเว็บไซต์อีเบย์ และ Upgrade Fee ค่าตกแต่งประกาศสินค้าให้ดูสะดุดตา ต้นทุนนี้จะมากหรือน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การตั้งราคาเปิดประมูลและวิธีการดึงดูดลูกค้าที่คุณเลือกใช้
ต้นทุนที่คำนวณได้นี้คือต้นทุนต่อการลิสต์สินค้าหนึ่งชิ้น แต่ยังไม่ใช่ต้นทุนต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้น
ถ้าคุณลิสต์สินค้า 10 ชิ้น มีต้นทุน Listing Fee ชิ้นละ $0.55 และสามารถขายสินค้าได้ทั้ง 10 ชิ้น แปลว่าคุณมีต้นทุน Listing Fee ต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้นอยู่ที่ $0.55
แต่ถ้าคุณลิสต์สินค้า 10 ชิ้น มีต้นทุน Listing Fee ชิ้นละ $0.55 แต่สามารถขายสินค้าได้เพียง 5 ชิ้น คุณจะมีต้นทุน Listing Fee ต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้นอยู่ที่ $0.55 x (10 / 5) = $1.10
ต่อที่บทความหน้านะครับ

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิธีการประเมินสินค้าที่ขายบนเว็บไซต์อีเบย์แล้วได้กำไร



เว็บไซต์อีเบย์มีสินค้าประกาศขายอยู่เป็นจำนวนมากมายมหาศาล สินค้าบางอย่างเป็นสินค้าที่คนไทยขายแล้วขาดทุน เพราะต้นทุนค่าสินค้าสูงกว่าในต่างประเทศ หรือเพราะคนไทยขายตัดราคากันเองจนไม่เหลือกำไร แต่มีสินค้าอีกหลายกลุ่มที่สามารถทำกำไรได้ ลองมาดูวิธีประเมินว่าสินค้ากลุ่มไหนขายแล้วได้กำไรกันบ้าง ก่อนจะลงมือประกาศขายจริง
สมการที่สำคัญที่สุดของการทำธุรกิจก็คือสมการกำไร
กำไร = ราคาขาย – ต้นทุน
สินค้าที่มีกำไรสูงก็คือสินค้าที่มีราคาขายสูงและมีต้นทุนต่ำ ถ้าเราสามารถหาสินค้าที่มีตัวเลขราคาขายและต้นทุนเป็นไปตามนี้ได้ นั่นก็คือโอกาสในการทำเงินบนเว็บไซต์อีเบย์
แต่วิธีการหาราคาขายและต้นทุนของสินค้าสักชิ้นหนึ่งนั้นไม่ง่ายนัก เพราะราคาขายสินค้าชิ้นเดียวกันก็แตกต่างกัน เนื่องจากเว็บไซต์อีเบย์เป็นระบบประมูลที่ราคาขายจะขึ้นอยู่กับผู้ประมูลคนสุดท้าย ส่วนต้นทุนนี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะการทำธุรกิจอีเบย์นั้นมีต้นทุนยิบย่อยหลายจุด ต้นทุนแต่ละแบบต่างก็มีวิธีคิดที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าเราค่อยๆ คิดอย่างละเอียด ก็สามารถคำนวณหากำไรของสินค้าแต่ละชิ้นได้ไม่ยาก
ราคาขาย
ตัวแปรตัวแรกที่จะต้องหาให้ได้ก่อนก็คือราคาขาย วิธีการหาราคาขายของสินค้าที่คุณไม่เคยขายมาก่อนนั้นทำได้ 2 แบบ
แบบแรกคือการทำวิจัยด้วยตัวเอง โดยเข้าไปในเว็บไซต์อีเบย์เพื่อค้นหาสินค้าที่คุณต้องการหาราคาขาย จากนั้นให้ Watch สินค้าเหล่านั้นไว้ ยิ่ง Watch เยอะเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะข้อมูลที่ได้จะเป็นราคาขายเฉลี่ยจริงๆ ไม่ใช่การสุ่มเลือกสินค้ามาเพียงหนึ่งชิ้นแล้วนำราคาขายของสินค้าชิ้นนั้นมาใช้ เพราะถ้าสินค้าชิ้นนั้นมีราคาขายสูงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก ตัวเลขกำไรที่คำนวณออกมาตอนสุดท้ายก็จะผิดเพี้ยนไป

วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง (ต่อ)



ปริมาณผู้ซื้อจะเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าทางเว็บไซต์อีเบย์คงไม่ขึ้นค่าธรรมเนียมโดยที่ผู้ขายไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้น สิ่งที่ผู้ขายจะได้ก็คือปริมาณผู้ซื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยดันราคาปิดประมูลให้สูงขึ้นด้วย สาเหตุที่ปริมาณผู้ซื้อเพิ่มขึ้นเกิดจากปริมาณสินค้าที่มีให้เลือกมากขึ้น รวมถึงการที่ผู้ขายจะลดการกำหนดราคาขั้นต่ำลง ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องเซ็งเพราะเสนอราคาไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึงขั้นต่ำซักที บรรยากาศการซื้อสินค้าที่ดีขึ้นทำให้เกิดการบอกต่อในกลุ่มผู้ซื้อ
การกินกำไรจากค่าส่งสินค้าจะลดลง เนื่องจากคะแนน DSR มีผลต่อ Best Match การตั้งราคาค่าส่งสินค้าสูงๆ เพื่อทดแทนสินค้าราคาต่ำจะเป็นวิธีที่ไม่น่าใช้เหมือนแต่ก่อน เพราะอาจส่งผลให้ DSR ลดลงจนกระทบต่ออันดับการแสดงประกาศสินค้า นอกจากนี้ทางเว็บไซต์อีเบย์ยังได้รับผลพลอยได้คือสามารถเก็บค่าธรรมเนียมจากราคาปิดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น
ผู้ขายรายเล็กแข่งกับผู้ขายรายใหญ่ลำบากขึ้น เพราะผู้ขายรายใหญ่ที่เป็น PowerSeller จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมจากราคาปิดทำให้ได้เปรียบด้านต้นทุนที่ต่ำกว่า ส่วนลดนี้เป็นเสมือน entry barrier ให้กับ PowerSeller ที่ช่วยป้องกันไม่ให้คู่แข่งรายใหม่เข้ามาได้ง่าและยังช่วยลดความเสียหายในกรณีที่เกิดสงครามราคาขึ้นในตลาด
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคงจะทำให้ผู้ขายหลายคนรู้สึกว่าเว็บไซต์อีเบย์ไม่น่าสนใจแล้วเพราะค่าธรรมเนียมแพงเหลือเกิน แต่ถ้าเกิดปรากฎการณ์ผู้ขายเลิกออกไปหลายคน ผู้ขายที่ยังอยู่ต่อก็จะมีความสุขมากขึ้นเพราะคู่แข่งน้อยลงและได้กำไรสูงขึ้น

วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง



ทำให้สภาวะการซื้อขายบนเว็บไซต์อีเบย์ถูกปรับเปลี่ยน ช่องโหว่ที่เคยมีถูกปิด
ปริมาณสินค้าให้เลือกซื้อจะเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากค่าธรรมเนียมการลงประกาศสินค้าที่ถูกลง รวมถึงค่าธรรมเนียม Gallery ที่ถูกยกเลิกไป ทำให้ผู้ขายหน้าใหม่อยากเข้ามาทดลองใช้เว็บไซต์อีเบย์กันมากขึ้น แต่ก่อนที่จะลงประกาศขายสินค้าหนึ่งชิ้น ผู้ขายส่วนใหญ่จะเสียค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ $0.55 (Insertion Fee $0.20 + Gallery Fee $0.35)  ต่อไปค่าธรรมเนียมเริ่มต้นจะเหลือเพียง $0.15 เรียกได้ว่าเม็ดเงินที่แต่ก่อนใช้ลงประกาศได้แค่หนึ่งรายการ ในอนาคตจะสามารถใช้ลงประกาศได้เกือบสี่รายการกันเลยทีเดียว
เกมซื้อขายฟีดแบ็คจะลดลง จากการยกเลิกไม่ให้ลงประกาศสินค้าแบบราคาตายตัวและแบบร้านค้าที่มีราคาสินค้าต่ำกว่า $1.00 ทำให้ก่อนหน้านี้สามารถซื้อฟีดแบ็คในราคา $0.01 ด้ทันที แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นจะต้องรอ7วันถึงจะได้ฟีดแบ็ค
สินค้าราคาถูกจะมีกำไรลดลง จากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมราคาปิดที่ขั้นแรกสูงถึง 8.75% แถมยังถูกกดหัวจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและต้องจ่ายจริงของค่าธรรมเนียมการกำหนดราคาขั้นต่ำ สมมุติว่าแต่ก่อนนี้เคยตั้งราคาเปิดประมูลไว้ที่ $0.99 และตั้งราคาขั้นต่ำไว้ที่ $25.00 ถ้าขายสินค้าชิ้นนี้ได้จะเสียค่าธรรมเนียมเพียง $1.86 (Insertion Fee $0.20 + Gallery Fee $0.35 + Final Value Fee $1.31) หรือประมาณ 7.44% ของราคาขาย แต่ในอนาคตค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้นเป็น $4.34 (Insertion Fee $0.15 + Reserve Fee $2.00 + Final Value Fee $2.19) หรือประมาณ 17.36% ของราคาขาย ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นเกือบ 10% เลย

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เพิ่มสิทธิพิเศษสำหรับ PowerSeller และการเปลี่ยนแปลงระบบฟีดแบ็ค



จากเดิมที่ PowerSeller จะต้องมียอดขายไม่ต่ำกว่าเดือนละ $1,000 หรือมีการขายสินค้าไม่ต่ำกว่า 100 รายการ มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นอีก คือ PowerSeller จะต้องมีคะแนน DSR ทุกประเภทตั้งแต่ 4.5 ขึ้นไปในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่เป็น PowerSeller จะได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่างดังนี้
PowerSeller ที่มีคะแนน DSR 4.6 ขึ้นไปในช่วง 30 วันที่ผ่านมา จะได้รับส่วนลด 5% ของค่าธรรมเนียมจากราคาปิด
PowerSeller ที่มีคะแนน DSR 4.8 ขึ้นไปในช่วง 30 วันที่ผ่านมา จะได้รับส่วนลด 15% ของค่าธรรมเนียมจากราคาปิด
ได้รับความคุ้มครองจาก PayPal เพิ่มขึ้น ไม่จำกัดวงเงิน ครอบคลุมที่อยู่ใน 190 ประเทศทั่วโลก
ได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ชำระเงิน ครอบคลุมไปยังประกาศขายสินค้าแบบราคาตาตายตัว และสามารถเรียกคืนเงินค่าธรรมเนียมฟีเจอร์ต่างๆ ได้
การเปลี่ยนแปลงระบบฟีดแบ็ค
มีการปรับกติกาของระบบฟีดแบ็คโดยมีรายละเอียดดังนี้
ผู้ซื้อจะได้รับฟีดแบ็คแบบ Positive อย่างเดียวเท่านั้น
ผู้ซื้อที่มีการซื้อซ้ำกับผู้ขายคนเดิมสามารถให้ฟีดแบ็คเพิ่มได้ จากแต่ก่อนที่นับคะแนนแค่หนึ่งคะแนนต่อผู้ซื้อหนึ่งคน
ฟีดแบ็คที่นานกว่า 12 เดือนจะไม่ถูกคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์
ถ้าผู้ซื้อไม่จ่ายเงินและไม่ยอมติดต่อกับผู้ขาย ฟีดแบ็คแบบ Negative หรือ Neutral ที่ผู้ซื้อให้กับผู้ขายคนนั้นจะถูกลบออก
ผู้ซื้อต้องรอสามวันถึงจะให้ฟีดแบ็คแบบ Negative หรือ Neutral ได้
การให้ฟีดแบ็คจะต้องทำภายใน 60 วัน จากเดิมคือ 90 วัน

การเปลี่ยนแปลงการแสดงผลลัพธ์การค้นหาสินค้า



ปัจจุบันนี้อีเบย์มีระบบเก็บคะแนนฟีดแบ็คของผู้ขายที่ละเอียดกว่ายุคก่อนๆคือนอกจากจะใช้ Positive Feedback แล้ว ผู้ซื้อยังสามารถระบุความพึงพอใจที่มีต่อผู้ขาย Detailed Seller Ratings – DSR ได้ด้วย โดยแยกออกมาเป็นสี่เรื่องได้แก่ สินค้าตรงตามที่ระบุในประกาศ การติดต่อสื่อสารเป็นไปด้วยดี ระยะเวลาในการส่งสินค้าน่าพอใจ ค่าบรรจุและจัดส่งสินค้าไม่สูงเกินไป แต่ละเรื่องมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 5 ดาว
นอกจากนี้เว็บไซต์อีเบย์ยังมีระบบ Best Match ที่ช่วยให้ผู้ซื้อค้นหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด ระบบที่ว่านี้จะส่งผลต่ออันดับของการแสดงประกาศสินค้า ประกาศที่มีคะแนน Best Match สูงก็จะปรากฎอยู่ในอันดับบนๆ ในเวลาที่ผู้ซื้อค้นหาสินค้า อัลกอริธึมที่ใช้คำนวณอันดับจะนำปัจจัยหลายอย่างมาคิดร่วมกัน ปัจจัยหนึ่งก็คือคะแนนความพึงพอใจ DSR นั่นเอง ในตอนนี้เว็บไซต์อีเบย์ได้ใช้ Best Match เป็น default เวลาที่ผู้ซื้อค้นหาสินค้าในบางกลุ่มไปแล้ว และจะปรับใช้ในทุกกลุ่ม โดยที่คะแนน DSR จะส่งผลต่ออันดับใน Best Match ดังนี้
สำหรับผู้ขายที่มีคะแนน DSR ตั้งแต่ 4.6 ขึ้นไป และมีคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้า 95% ขึ้นไปใน 30 วันที่ผ่านมา ประกาศสินค้าของผู้ขายจะมีอันดับใน Best Match ที่ดีขึ้น
แต่ถ้าผู้ขายมีคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าต่ำกว่า 95% ใน 30 วันที่ผ่านมา หรือมีคะแนน DSR ในส่วนของค่าบรรจุแจะจัดส่งสินค้าต่ำกว่า 4.2 ประกาศสินค้าของผู้ขายก็จะถูกลดอันดับลง
ในกรณีที่ผู้ขายมีคะแนน DSR โดยรวมต่ำกว่า 4.6 หรือยังไม่มีคะแนนนี้ โดยที่คะแนนความพึงพอใจจากลูกค้ายังไม่ต่ำกว่า 95% ก็จะไม่ได้รับผลดีหรือผลเสียของอันดับใน Best Match

การขายสินค้าราคาเปิดสูงโดยเสียค่าลิสต์ $0.20



อีเบย์มักจะมีโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมการลิสต์สินค้าหรือ Insertion Fee ออกมาเรื่อยๆ โดยมักจะออกมาในรูปแบบเสียค่าลิสต์เพียง $0.20 ไม่ว่าราคาเปิดประมูลของสินค้าจะเป็นเท่าไหร่ก็ตาม ผู้ขายหลายๆคนมักจะชอบลิสต์สินค้าในวันที่มีโปรโมชั่นแบบนี้มากๆ
แต่บางครั้งวิธีนี้อาจจะไม่ดีเสมอไป เพราะผู้ขายรายอื่นก็ชอบลิสต์สินค้าในวันนี้เหมือนกัน และอาจทำให้มีสินค้าอยู่บนเว็บไซต์อีเบย์เยอะมากจนเกิด over supply ทำให้ราคาปิดของสินค้าลดลง
เช่น ถ้าคุณลิสต์สินค้าราคา $9.99 ซึ่งปกติแล้วจะเสีย Insertion Fee $0.40 แต่ถ้าคุณลิสต์ในวันที่มีโปรโมชั่น ก็จะเสียเพียง $0.20 ช่วยให้คุณประหยัดเงินลงได้ $0.20 ขณะที่ในวันที่ไม่มีโปรโมชั่น คุณอาจจะขายสินค้าได้ที่ราคา $15 แต่วันที่มีโปรโมชั่น คุณอาจจะขายได้เพียง $14.50 รายได้ลดลงถึง $0.50 รวมเบ็ดเสร็จแล้ว คุณจะขาดทุนกำไรไป $0.30
แล้วจะมีวิธีไหนที่ช่วยให้คุณประหยัดค่า Insertion Fee ได้ โดยที่ไม่ต้องขายสินค้าในวันที่เกิด over supply
คุณสามารถทำได้ด้วยการลิสต์สินค้าเปล่า ในวันที่อีเบย์มีโปรโมชั่นลดค่า Insertion Fee โดยให้ลิสต์ของคุณไปอยู่ในหมวด Test Auctions แต่ให้เขียน title ว่า testing, do not bid แล้วกำหนดราคาเริ่มประมูลไว้สูงๆ เช่น $99 ที่ทำแบบนี้เพราะเราไม่ต้องการให้ใครมาประมูลลิสต์ตัวนี้
พอผ่านวันที่มีโปรโมชั่นไป คุณค่อยนำลิสต์ที่สร้างขึ้นในวันที่มีโปรโมชั่น กลับมา relist อีกที แต่คราวนี้ให้ใส่รายละเอียดของสินค้าที่คุณต้องการขายจริงๆ ลงไปเลย ถ้าคุณสามารถขายสินค้าชิ้นนี้ได้อีเบย์จะเครดิตค่า Insertion Fee ของสินค้าตัวนี้กลับมาให้ แปลว่าคุณจะเสีย Insertion Fee เฉพาะวันที่มีโปรโมชั่นในราคาเพียง $0.20 เท่านั้นเอง

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การปรับราคาสินค้าขึ้นหรือลง



หากคุณกำลังอยากซื้อสินค้าชิ้นหนึ่งจากเว็บไซต์อีเบย์ สินค้าชิ้นนั้นถูกตั้งราคาแบบ Buy It Now ไว้ที่ $9.99 และยังไม่มีใครประมูล คุณเลยเพิ่มสินค้ารายการนี้ไว้ใน Watch List เพื่อรอดูท่าทีว่าจะมีผู้ขายคนอื่นเอาสินค้าแบบเดียวกันนี้มาประมูลขายในราคาที่ถูกกว่าหรือไม่
ปรากฎว่าพอเวลาผ่านไป ยังไม่มีใครมาซื้อสินค้าชิ้นนี้ แถมผู้ขายยังลดราคาขายเหลือ $9.79 แบบนี้คุณจะตัดสินใจอย่างไร เป็นหลักการทางจิตวิทยาที่ใช้ได้ดีเลยทีเดียว
เมื่อผู้ซื้อเห็นว่าสินค้าที่ตนอยากได้มีการปรับราคาลง เขาจะเริ่มลังเลว่าควรจะตัดสินใจซื้อเลยดีไหม หรือว่าจะรอดูท่าทีไป แต่การรอนั้นอาจทำให้เขาเสียโอกาสได้ถ้ามีผู้ซื้อคนอื่นมาแย่งซื้อไป ผู้ซื้อหลายคนจึงตัดสินใจซื้อทันทีที่เห็นการปรับราคาลง
ถ้าคุณลิสต์สินค้าขึ้นไป 3 วัน แล้วยังไม่มีใครเข้ามาประมูล แต่มีคน Watch สินค้าของคุณอยู่ ลองปรับราคาสินค้าลง จะช่วยเร่งรัดการตัดสินใจของผู้ซื้อได้
ผู้ขายอาจจะลองเล่นเกมลดราคาทุกวันก้ได้ โดยเขียนไว้ใน Description เลยว่าสินค้าชิ้นนี้จะมีการลดราคาเปิดประมูลลงทุกวัน จนกว่าจะมีคนเข้ามาประมูลคนแรก วิธีนี้จะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกสนใจสินค้าของคุณ และเขาจะคอยจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของราคาทุกวัน
คุณอาจจะลองใช้วิธีกลับกันก็ได้ ในกรณีที่คุณลิสต์สินค้าแบบ Buy It Now ขณะที่คุณมีคู่แข่งที่ลิสต์สินค้าแบบประมูล หรืออาจจะเป็นตัวคุณเองก็ได้ที่ลิสต์สินค้าชนิดเดียวกันเพิ่มอีกรายการด้วยวิธีการประมูล ถ้าราคาประมูลของคู่แข่งเริ่มเข้าใกล้ราคา Buy It Now ของคุณแล้ว เช่น ถ้าคุณตั้งราคาไว้ที่ $8.99 แต่ราคาของคู่แข่งมาถึง $8.00 แล้ว คุณอาจจะลองขยับราคา Buy It Now ของคุณให้สูงขึ้นไปอีก เขาจะเริ่มลังเลแล้วว่าจะสู้ราคาประมูลสินค้าของคู่แข่งคุณต่อหรือไม่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วราคาประมูลอาจจะแพงกว่าราคา Buy It Now ก็ได้ หรืออาจจะไม่ชนะประมูลก็ได้ ผู้ซื้อบางคนจะตัดใจมาซื้อ Buy It Now ของคุณเลยดีกว่า

เติมสินค้าของคุณให้เต็ม (ต่อ)



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
ยังมีกลยุทธ์ที่ลึกล้ำกว่านี้อีก คือลิสต์แบบ $0.99 ควรใช้วิธีลิสต์แบบ 1 Day เพื่อให้สินค้าของคุณปรากฎอยู่ในลำดับบนตลอดเวลา ขณะที่สินค้าดาราที่จะตั้งราคาแบบ $0.99 เหมือนกัน ก็ควรลิสต์แบบ 7 Days หรือ 10 Days ไปเลย เพื่อให้คนเข้ามาประมูลเยอะๆ และดันราคาให้สูง สุดท้ายราคาอาจจะเกิน $50 
การจะลิสต์สินค้า 20 รายการภายในเวลารวดเร็ว เพื่อให้ลิสต์ทั้งหมดอยู่ติดกันเป็นแผง การใช้เว็บอีเบย์เพียงอย่างเดียวในการลิสต์สินค้าคงจะทำไม่ได้ ต้องอาศัยเครื่องมือ
ใช้เว็บอีเบย์ลิสต์สินค้าตามปกติ แต่เพิ่ม Listing Upgrade ที่ชื่อว่า Scheduled Listings ซึ่งจะต้องเสียเงินเพิ่ม $0.10 ผู้ขายสามารถที่จะตั้งเวลาได้ว่าจะให้ลิสต์ทั้ง 20 รายการของคุณปรากฎขึ้นพร้อมๆ กับบนอีเบย์ในวันเวลาไหน
ใช้โปรแกรม Turbo Lister ในการสร้างลิสต์เตรียมไว้ก่อน ซึ่งผู้ขายสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมนี้มาใช้ได้ฟรี พอถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะลิสต์สินค้าขึ้นเว็บไซต์อีเบย์ คุณก็ใช้ Turbo Lister อัพโหลดทั้ง 20 รายการขึ้นไป วิธีนี้ฟรี แต่คุณอาจจะต้องตื่นนอนมาลิสต์สินค้าในช่วงเวลาที่ลูกค้ากำลังเข้าเว็บกันอยู่ และวิธีนี้อาจทำให้สินค้าของคุณไม่ติดกันเป็นแผง เพราะ Turbo Lister จะทยอยส่งลิสต์ขึ้นไปทีละรายการ ซึ่งอาจจะมีลิสต์ของคู่แข่งเข้ามาคั่นกลาง
ใช้เว็บ Auctiva ในการสร้างลิสต์และตั้งเวลา ซึ่งเว็บนี้ให้บริการฟรี แม้แต่การตั้งเวลา คุณสามารถเตรียมลิสต์ในเวลาทำงานตามปกติของคุณ และสั่งให้ Auctiva ส่งลิสต์ขึ้นไปในเวลาที่ลูกค้ารอดูสินค้าของคุณอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นเวลานอนของคุณ เว็บนี้ดีมาก แต่มีข้อเสียที่บริการตั้งเวลานั้นอาจจะมีข้อขัดข้องในช่วงเวลาที่คนต้องการลิสต์สินค้าขึ้นไปเยอะๆ และทำให้สินค้าของคุณไม่ติดกันเป็นแผงแบบที่ต้องการ

เติมสินค้าของคุณให้เต็ม



เวลาเราค้นหาสินค้าที่เราต้องการบนเว็บไซต์อีเบย์คุณมักจะพบว่ามีสินค้าจากผู้ขายเพียงคนเดียวเต็มทั้งหน้า
นั่นคือกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่คุณสามารถใช้ได้เวลาที่ลิสต์สินค้าบนเว็บไซต์อีเบย์
คุณไม่ต้องใช้กำลังภายในใดๆ คุณก็สามารถแสดงสินค้าของคุณให้เต็มทั้งหน้าได้ นั่นแปลว่าลูกค้าจะเห็นแต่สินค้าของคุณ
การที่คุณจะลิสต์สินค้าให้ดูเต็มทั้งหน้าได้ อย่างแรกเลยที่ต้องมีก็คือสินค้าชนิดเดียวกัน แต่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน เช่น ถ้าคุณขายเสื้อแบรนด์เนม ก็ต้องเป็นแบรนด์เดียวกัน แต่อาจจะมีสีหรือลายที่ต่างกัน เนื่องจากลูกค้ามักจะค้นหาสินค้าโดยระบุชื่อแบรนด์ การลิสต์สินค้าแบรนด์เดียวกันทั้งหมดจะช่วยให้ลูกค้าเห็นแต่สินค้าของคุณถูกลิสต์ติดกันหมด แต่สินค้าที่นำมาลิสต์ก็จะต้องมีความแตกต่างกัน เพื่อให้ดูแล้วหลากหลาย
นอกจากนี้ การใช้กลยุทธ์ราคา $0.99 ก็จะช่วยจูงใจลูกค้า ถ้าลูกค้าเห็นแต่ลิสต์ของคุณ แต่คุณตั้งราคาไว้สูงเนื่องจากกลัวขาดทุน บางทีลูกค้าจะไม่สนใจคลิกเข้ามาดูรายละเอียด แล้วสินค้าของคุณอาจจะขายไม่ออก แต่ถ้าคุณตั้งราคาแบบ $0.99 ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าที่สูงขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยงที่จะขาดทุน
แต่ผู้ขายบางคนก็ไม่ได้มองว่าเป็นการขาดทุน กลับมองว่าเป็นต้นทุนการประชาสัมพันธ์ เพราะลิสต์แบบ $0.99 จะมีลิงค์ที่โปรโมทให้ลูกค้าไปดูสินค้าอีกตัวหนึ่ง ซึ่งสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าที่โดดเด่น และตั้งราคาขายไว้สูง ถ้าขายสินค้าตัวนี้ได้ก็คืนทุนค่าประชาสัมพันธ์ แล้วยังได้กำไรอีกด้วย
มาต่อกันที่บทความหน้านะครับ

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขายสินค้าบนอีเบย์ก็เหมือนทำธุรกิจโฆษณาขายสินค้า ตอนจบ



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
ปัจจัยที่สำคัญกว่าเรื่องรูป ก็คือเรื่องราคาประมูลของสินค้า ถ้าราคาประมูลต่ำจนน่าจูงใจ ก็ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจคลิกเข้ามาดูรายละเอียดข้างในได้ แต่ถ้าราคาประมูลสูงกว่าสินค้าชนิดเดียวกันที่คู่แข่งของเราขาย ผู้ซื้อก็มักจะเลือกดูสินค้าของคู่แข่งก่อน ถ้าเขาไม่ชนะประมูลสินค้าของคู่แข่ง จึงจะมาดูสินค้าของเรา
เมื่อมีคนคลิกเข้ามาดูรายละเอียดของสินค้า 50 คนแล้ว คนที่ตัดสินใจประมูลอาจจะเหลือเพียงไม่กี่คน โดยเฉลี่ย ถ้ามีคนเข้ามาประมูลได้สัก 5 คนก็ถือว่าเยี่ยมมากแล้ว เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีแค่คนเดียว หรือไม่มีคนประมูลเลย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจประมูล คงเป็นเรื่องของราคาประมูลในขณะนั้น แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่เราสามารถปรับใช้ได้ ในกรณีที่เราแน่ใจแล้วว่าสินค้าของเราราคาประมูลต่ำจริง คือรูปภาพสินค้าที่ใช้จะต้องดูดี มองเห็นตัวสินค้าครบทุกมุม นอกจากนี้ รายละเอียดของสินค้าก็สำคัญเช่นกัน บางคนเขียนรายละเอียดสินค้าด้วยฟอนต์ที่ตัวเล็กมาก ทำให้ไม่อยากอ่าน เราควรจะใช้ฟอนต์ตัวใหญ่ให้กับรายละเอียดที่เป็นจุดเด่นของสินค้าเรา เช่น ยี่ห้อสินค้า ขนาดสินค้า หรือข้อความเร่งเร้าการตัดสินใจ และรายละเอียดสินค้าจะต้องครบถ้วน ระบุเรื่องการจัดส่งสินค้าให้ชัดเจน เพื่อที่ผู้ซื้อจะได้ตัดสินใจประมูลได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาส่งข้อความมาถามเรา
เมื่อมีผู้ประมูล 5 คน แต่สินค้ามีเพียงชิ้นเดียว ก็จะมีผู้ชนะประมูลที่หลุดออกมาจากกรวยกรองเพียงแค่คนเดียว 5 คนนี้จะปั่นราคาขึ้นไปสูงแค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป

ขายสินค้าบนอีเบย์ก็เหมือนทำธุรกิจโฆษณาขายสินค้า ตอน 2



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
เคยเปิดอ่านนิตยสารประเภท Classifieds ที่มีประกาศขายสินค้ามือสองไหมครับ  ถ้าลองสังเกตดู จะพบว่าสินค้าที่ลงประกาศแบบไม่เสียเงิน จะมีพื้นที่ในการแสดงรายละเอียดของสินค้าที่เล็กมาก และดูติดกันไปหมด ขณะที่สินค้าที่จ่ายเงินค่าโฆษณา จะได้รับพื้นที่โฆษณาที่ใหญ่กว่า โดดเด่นกว่า
การขายสินค้าบนเว็บไซต์อีเบย์ก็เช่นเหมือนกัน ถ้าคุณจ่ายเงินเพื่อซื้อ Listing Upgrade เพิ่ม สินค้าของคุณก็จะดูโดดเด่นขึ้นได้ Listing Upgrade ที่นิยมใช้กันเป็นปกติก็คือ Gallery เพื่อใช้แสดงตัวอย่างรูปภาพสินค้าให้ผู้ซื้อมองเห็นก่อนที่จะตัดสินใจคลิกเข้าไปดูรายละเอียด ส่วน Listing Upgrade อื่นๆ ก็ต้องดูว่าสภาพการแข่งขันภายในหมวดสินค้าที่คุณอยู่นั้นเป็นอย่างไร เช่น หมวดสินค้าประเภทเครื่องประดับจะมีการใช้ Listing Upgrade ค่อนข้างเยอะ เพื่อทำให้ผู้ซื้อรู้สึกสะดุดตา เนื่องจากหมวดนี้มีการแข่งขันกันสูง ขณะที่หมวดสินค้าอื่น อาจไม่ค่อยใช้ Listing Upgrade มากนัก
นอกจากนี้ การเลือกวันเวลาในการลิสต์สินค้าก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ซื้อมองเห็นสินค้าของคุณได้ ถ้าคุณเลือกวันเวลาที่มีผู้ซื้อเยอะ ก็อาจจะทำให้มีคนมองเห็นสินค้าของคุณเยอะ แต่ถ้าช่วงเวลานี้มีคู่แข่งเยอะ บางทีสินค้าของคุณอาจจะกลืนไปกับสินค้าของคู่แข่งได้เหมือนกัน หรือถ้าคุณเลี่ยงไปใช้ช่วงเวลาที่คนไม่นิยมใช้ สินค้าของคุณอาจจะโดดเด่นขึ้นมาได้ แต่ก็อาจจะไม่มีคนดูสินค้าได้เช่นกัน
เมื่อสินค้าของคุณโดดเด่นสะดุดตา มีคนมองเห็นสินค้าของคุณ 100 คน แต่คนที่จะคลิกเข้าไปดูรายละเอียดของสินค้าอาจจะมีเพียงครึ่งเดียวก็ได้
มาต่อตอนสุดท้ายกันที่บทความหน้านะครับ

ขายสินค้าบนอีเบย์ก็เหมือนทำธุรกิจโฆษณาขายสินค้า ภาค 1



ธุรกิจอีเบย์มีลักษณะคล้ายกับกรวยกรองที่ปากด้านบนกว้าง ส่วนก้นด้านล่างแคบ เราต้องพยายามใส่ input ลงไปในปากกรวยให้มากที่สุด เพียงเพื่อจะมี output ออกมาทางก้นกรวยเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือคนที่ชนะประมูลสินค้า
สิ่งแรกที่นักขายจะต้องทำคือการทำให้มีคนค้นพบสินค้าที่ตัวเองลิสต์ขึ้นไปให้มากที่สุด เปรียบเสมือนการใส่ input ลงไปในปากกรวยให้มาก เพื่อที่จะได้มีคนหลุดเข้ามาถึงก้นกรวยซึ่งคือการตัดสินใจประมูลสินค้าให้มากขึ้น เมื่อมีผู้ประมูลมาก ราคาของสินค้าก็จะขยับตัวสูงขึ้น
การทำให้สินค้าถูกค้นพบมากที่สุดคือการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่หัวข้อสินค้าให้เหมาะสม เนื่องจากอีเบย์ ให้พื้นที่ใส่หัวข้อสินค้าเพียง 55 ตัวอักษร จึงต้องใช้พื้นที่นี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ผู้ขายจะต้องพยายามหาคีย์เวิร์ดที่อธิบายสินค้าของเราได้ดีที่สุด และต้องเป็นคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกใช้เวลาต้องการค้นหาสินค้าด้วย
อีกวิธีหนึ่งคือการเลือกใช้หมวดสินค้าที่เหมาะสม สินค้าบางชนิดอาจจะอยู่ได้หลายหมวดสินค้า นักขายก็ต้องวิเคราะห์ว่าหมวดไหนเป็นหมวดที่ขายดีที่สุด ต้องพยายามหลีกเลี่ยงหมวดสินค้าที่ไม่ตรงกับสินค้าของเรา เช่น ขายเฟอร์นิเจอร์แต่ไปลิสต์ในหมวดคอมพิวเตอร์ เพราะนอกจากจะไม่มีคนสนใจสินค้าแล้ว ยังมีโอกาสที่ลิสต์จะถูกลบด้วย
สมมุติว่าเราเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ดี เลือกหมวดสินค้าที่เหมาะสม จนทำให้ผู้ซื้อค้นพบสินค้าของเราถึง 200 คน แต่อย่าลืมว่าสินค้าของเราจะปะปนไปกับสินค้าของคู่แข่ง ท้ายที่สุดแล้วอาจจะมีคนที่ มองเห็น สินค้าของเราแค่ 100 คน เราจึงต้องเพิ่มโอกาสการมองเห็นสินค้าของเราให้มากขึ้น
ต่อกันที่บทความหน้านะครับ

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขายสินค้าอะไรดี โดย Jason Lee แห่ง Ebay Singapore (ภาคต่อ)



คุณ Jason บอกว่ามีสินค้าในกลุ่มนี้ชนิดหนึ่งที่ในประเทศสหรัฐอเมริกาขายดีมาก ประเทศไทยก็มีความสามารถในการผลิตที่ยอดเยี่ยม แต่น่าแปลกที่กลับไม่ค่อยมีนักขายชาวไทยที่เอาสินค้านี้ไปขาย  สินค้าประเภทนี้ก็คือ Women Dress ครับ หมายถึงเสื้อผ้าสตรีที่ดูเป็นทางการหน่อย ไม่ใช่พวกเสื้อยืดใส่เล่น และไม่ต้องเป็นของมีแบรนด์เนมอะไร เอาแค่ดีไซน์สวยๆ คนฮ่องกงเอาเสื้อผ้าประเภทนี้ไปขายบนเว็บไซต์อีเบย์กันเยอะมาก  โดยใช้วิธีจ้างให้จีนผลิต ได้กำไรกัน 5 เท่า ถ้าเราพูดถึงการออกแบบเสื้อผ้า ประเทศไทยเราเหนือจีนนะครับ เรามีดีไซน์เนอร์เก่งๆมากมาย ใครที่ทำธุรกิจเสื้อผ้า หรือรู้จักกับธุรกิจเสื้อผ้า ลองมองหาช่องทางดู คุณ Jason บอกว่า ให้ลองไปดูว่าคนฮ่องกงขายเสื้อผ้าบนเว็บไซตือีเบย์กันอย่างไร
สินค้ากลุ่มที่สามคือ
- สินค้าที่ทำให้บ้านของตัวเองดูดี ก็คือพวกของตกแต่งบ้านทั้งหลาย คนอเมริกันนอกจากจะอยากให้ตัวเองดูดีแล้ว ก็อยากให้บ้านตัวเองดูดีด้วย ลองดูในบ้านของคุณ ว่ามีของใช้อะไรบ้าง ไล่ไปทีละห้องเลยตั้งแต่ ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องทานข้าว ห้องน้ำ ห้องนอน ในแต่ละห้องมีของอะไรอยู่บ้าง ลองหาของเหล่านั้นมาขายบนเว็บไซต์อีเบย์ดู สินค้าพวกนี้ประเทศไทยผลิตได้ทั้งนั้น ต้นทุนค่อนข้างถูก

ขายสินค้าอะไรดี โดย Jason Lee แห่ง Ebay Singapore


คุณ Jason Lee ซึ่งเป็น Head of Expansion ของ Ebay Singapore ที่ดูแลงานใน South East Asia ทั้งหมด คุณ Jason ได้พูดคุยเรื่องอีเบย์ในประเทศไทย
คุณ Jason ได้บอกว่าทางอีเบยืได้ทำ research เรื่องสินค้าที่คนอเมริกันชอบซื้อกัน สามารถสรุปออกมาได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆได้แก่
- สินค้าประเภท Consumer Electronics อย่างเช่น พวกเครื่องเล่น MP3 อย่าง iPod หรือเครื่องเล่นเกมอย่าง PlayStation, Xbox, Wii สินค้าพวกนี้คนอเมริกันชื่นชอบกันอย่างมากเลยทีเดียว คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังเราคงได้เห็นสินค้าอย่างไอโฟน iPhone ขายดิบขายดีเป็นอย่างมากบนเว็บไซต์อีเบย์ แต่สินค้ากลุ่มนี้ไม่น่าสนใจสำหรับคนไทย เพราะประเทศไทยไม่มีจุดแข็งทางด้านนี้  ต้องมาดูสินค้าอีกสองกลุ่มซึ่งน่าสนใจมาก
- คือ สินค้าที่ช่วยให้ตัวเองดูดี ลองดูที่ตัวคุณเป็นหลัก ตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อผ้า หมวก ถุงเท้า ผ้าพันคอ เนคไท รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับต่างๆ รวมไปถึงพวกเครื่องสำอาง น้ำหอม สิ่งบำรุงผิวต่างๆ คนอเมริกันค่อนข้างแคร์เรื่องภาพลักษณ์ของตัวเอง อยากให้ตัวเองดูดีในสายตาคนอื่น พวกเขามีเงินที่พร้อมจะจ่ายให้กับสิ่งที่ตกแต่งให้ตัวเขาดูดีได้
เดี๋ยวเรามาต่อกลุ่มที่สามกันที่บทความหน้านะครับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาคจบ



มาถึงภาคสุดท้ายกันแล้ว
สินค้าราคาสูงที่สุดที่ถูกซื้อบนเว็บไซต์อีเบย์คือเครื่องบิน
เครื่องบิน Gulfstream II Jet ถูกขายในราคา $4.9 ล้านเมื่อปี 2001 และยังครองสถิติสินค้าราคาสูงที่สุดบนอีเบย์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับสินค้าบนอีเบย์ ที่ราคาสูงที่สุดก่อนหน้านี้ที่ $1.65 ล้าน เครื่องบินถูกขายโดย Tyler Jet ปัจจุบันคือ Tyler Jet Motorsports  ซึ่งเป็นผู้ขายเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดในโลก
อีเบย์เป็นบริษัทแรกที่ทวีตรายงานสดผลประกอบการ
Richard Brewer-Hay บล็อกเกอร์ของอีเบย์เป็นคนแรกที่รายงานผลประกอบการของบริษัทผ่าน Twitter ในระหว่างการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2010 โดย Brewer-Hay ใช้แท็ก #eBayQ210 ในการทวีต
ก่อนหน้านั้นเขาเคยทำงานร่วมกับทีมกฎหมายของอีเบย์เพื่อวางแนวปฏิบัติในการใช้ Social Media สำหรับรายงานข้อมูลของบริษัทในนามของอีเบย์ โดยไม่ให้มีปัญหาทางกฎหมาย
Brewer-Hay มีบทบาทในการสร้างตัวตนของอีเบย์บน Social Network ที่หลากหลาย โดยมี Twitter ที่อีเบย์เป็นเจ้าของมากกว่า 40 ชื่อ ซึ่งประกอบด้วย Ebay Radio, Ebay Classifieds, Ebay Green, PayPal

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาค 6



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
แอพบน iPhone ชื่อ Ebay Classifieds Pets เพื่อหาประกาศขายสัตว์เลี้ยงในท้องถิ่นที่คุณอยู่ แอพตัวนี้เพิ่งเปิดตัวได้เมื่อไม่นานมานี้เอง
และแล้วโทรศัพท์มือถือถูกใช้เพื่อซื้อสินค้าชิ้นใหญ่
เมื่อดูจากพฤติกรรมการใช้แอพอีเบย์บนโทรศัพท์มือถือ คุณจะพบว่าธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือมีความสำคัญเพิ่มขึ้นสำหรับบริษัท ทุกสองวินาทีมีสินค้าหนึ่งชิ้นที่ถูกซื้อผ่านแอพอีเบย์และในปี 2009 ผู้ใช้อีเบย์ซื้อสินค้าโดยใช้โทรศัพท์มือถือของพวกเขามีมูลค่าสูงถึง $600 ล้าน ล่าสุด John Donahoe ซึ่งเป็น CEO ของอีเบย์คาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่ากลายเป็น $1.5 พันล้านเร็วๆนี้
ไม่น่าแปลกที่บริษัทให้ความสำคัญกับโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้กำลังจ่ายเงินก้อนใหญ่ผ่านโทรศัพท์มือถือของพวกเขา ในปี 2010 สินค้าราคาสูงที่สุดที่ถูกขายผ่านแออีเบย์ คือเครื่องบิน Piper PA-46-310P Malibu ปี 1985 ในราคา $265,000 ธุรกรรมนี้ประสบความสำเร็จและมีการแลกเปลี่ยน Positive Feedback กันจริง
สินค้าราคาสูงอีกรายการที่ถูกซื้อผ่านแอพอีเบย์คือรถยนต์ Lamborghini Gallardo Spyder ปี 2007 ในราคา $139,000 มันจึงเป็นรถยนต์ที่ราคาสูงที่สุดที่ถูกซื้อผ่านแอพอีเบย์บนโทรศัพท์มือถือ
อีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นต่อแอพอีเบย์ที่จะช่วยให้การช็อปผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้ง่ายขึ้นก็คือ Red Laser ซึ่งเป็นแอพยอดนิยมบน iPhone ที่ใช้สแกนบาร์โค้ดของสินค้าในร้าน และแสดงราคาที่ดีที่สุดที่มีขายบนเว็บและร้านค้าอื่นๆ  อีเบย์เพิ่งซื้อแอพตัวนี้มาเพื่อนำเทคโนโลยีของ Red Laser ไปรวมกับบริการของอีเบย์ทั้ง Ebay Marketplace, Ebay Selling, StubHub และ Shopping.com
เดี๋ยวมาต่อภาคจบกัน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาค 5



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
ส่วนอาคาร Community มีลักษณะที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย ห้องประชุมในอาคารนี้ถูกตั้งชื่อด้วยคำศัพท์ต่างๆ ใน  Ebay Community เช่น PowerSeller, About Me, Feedback, Buy It Now และยังมีอาคารเล็กอีกสองหลังที่เป็นแหล่งพบปะกันคืออาคารโรงอาหารและอาคารร้านกาแฟ สิ่งที่น่าสนใจมากคือห้องประชุมห้องหนึ่งถูกตั้งชื่อว่า Jack Sheng ซึ่งเป็นชื่อสมาชิกคนหนึ่งของอีเบย์
5. Jack Sheng เป็นคนแรกที่มีคะแนน Feedback หนึ่งล้านคะแนน
ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2008 Jack Sheng เป็นผู้ขายสินค้าบนอีเบย์รายแรกที่ได้รับคะแนน Feedback หนึ่งล้านคะแนน ปัจจุบันเขามีคะแนนมากกว่าสองล้านคะแนนแล้ว Sheng ใช้เวลาถึงแปดปีกว่าจะมีคะแนน Feedback ครบหนึ่งล้าน แต่ใช้เวลาเพียง 18 เดือนหลังจากนั้นไปสู่สองล้านคะแนน
เพื่อแสดงความยินดีกับ Sheng ทีมงานอีเบย์ มอบ Shooting Star ในหน้าประวัติผู้ขายของเขา และตั้งชื่อห้องประชุมด้วยชื่อของเขา นายแน่มาก
และการขายแบบราคาตายตัวแซงการขายแบบประมูลไปแล้ว
การขายแบบราคาตายตัว Buy It Now มียอดมูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับหนึ่งมาปีกว่าแล้ว ประมาณ 59% ของยอดขายระหว่างไตรมาสที่สองของปี 2010 เกิดขึ้นจาก Buy It Now
และที่นี่คุณสามารถหาซื้อสัตว์เลี้ยงได้ใน eBay Classifieds
กำลังมองหาสัตว์เลี้ยง  ลองดูใน Ebay Classifieds เว็บประกาศขายสินค้าในท้องถิ่นที่ให้บริการฟรีแก่ทุกคน สัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในประกาศสินค้ายอดนิยม มีสุนัขหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกมากมายทั้ง Yorkie, Chihuahua, Boxer, English Bulldog, Pitbull สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแมว ก็มีให้เลือกตั้งแต่ Persian, Siamese,Bengal ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Petfinder มากกว่าสองในสามของประกาศสินค้ามาจากสถานสงเคราะห์สัตว์ คุณจึงช่วยอุปการะลูกหมาหรือลูกแมวให้มันได้อยู่ในบ้านใหม่ที่มีความสุข
ต่อกันที่บทความหน้านะครับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาค 4



ต่อกันเลยนะครับ
ด้วยแรงบันดาลใจจากรูปลักษณ์ของ Eastman Kodak และ Apple รวมถึงอีกหลายแบรนด์ Cleary และทีมงานของเขาสร้างโลโก้ที่ดึงดูดความสนใจต่อคนหมู่มาก ผลลัพธ์ที่ได้คือโลโก้ 4 สีที่มีตัวอักษร e-b-a-y เหลื่อมซ้อนกัน โลโก้นี้ถูกเลือกจากโลโก้อื่นๆ อีกห้าหรือหกแบบ เนื่องจากมีบุคลิก เป็นมิตร เปิดรับ และเข้าถึงง่าย ตามที่ทีมของอีเบย์ต้องการ
และสินค้าชิ้นแรกที่ถูกประกาศขายบนอีเบย์คือ Laser Pointer ที่เสียแล้วสุดสัปดาห์วันแรงงานในปี 1995 โปรแกรมเมอร์ชื่อ Omidyar เขียนโปรแกรมที่เขาเรียกว่า การทดลอง เขาอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงตลาดนัดเพียงหนึ่งเดียวของโลกได้ เพื่อทดสอบไอเดียนี้ เขาจึงสร้างเว็บประมูลขึ้นมา และประกาศขาย Laser Pointer เสียแล้วที่เขากำลังจะทิ้ง ท้ายที่สุด นักสะสมซื้อไปในราคา $14.83
สินค้าอื่นๆ ที่ขายได้หลังจาก Omidyar เปิดตัวอีเบย์ ไปเพียงสัปดาห์เดียวคือชุดชั้นในของ Marky Mark พร้อมลายเซ็นในราคา $400 กล่องอาหารโลหะลาย Superman ราคา $22 และ Toyota Tercel ราคา $3,200
สำหรับอาคารสำนักงานใหญ่ของอีเบย์ ตั้งชื่อตามหมวดสินค้าบน อีเบย์
มีอาคารทั้งหมด 7 หลังในสำนักงานใหญ่ของอีเบย์ที่ San Jose, California และอาคารเหล่านี้ถูกตั้งชื่อตามชื่อหมวดสินค้าบน ebay.com : Collectibles, Jewelry, Motors, Music, Sports, Technology, Toys
ห้องประชุมทั้งหมดถูกตั้งชื่อสอดคล้องกับชื่ออาคาร เช่น ห้องในอาคาร Motors ถูกตั้งชื่อตามประเภทของรถยนต์ ห้องในอาคาร Music ถูกตั้งชื่อตามประเภทเครื่องดนตรี
ต่อที่บทความหน้านะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาค 3



เรามาต่อกันเลย
สินค้าที่ Griffith ประกาศขายคือโบร์ชัวร์และสติ๊กเกอร์อีเบย์  ที่เขาพบในถังขยะที่สำนักงานในบริษัทอีเบย์ เขาได้ลงรูปประกอบที่มีลายน้ำเขียนว่า uncle_griff ที่เป็นชื่อผู้ขายของเขาไว้ด้วย หลังจากที่พบของเหล่านี้ เขายอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้ประวัติศาสตร์เลือนหายไป เขาจึงเก็บมันไว้และประกาศขายบนเว็บไซต์อีเบย์ในเวลาต่อมา โดยรายได้จากการขายถูกบริจาคให้สมาคมผู้พิการที่ใช้อินเทอร์เน็ต ในประกาศขาย เขาได้ให้ความเห็นต่อโลโก้สีน้ำเงินนี้ว่า
เป็นสิ่งที่หาไม่ได้อีกแล้ว และขอบคุณสวรรค์  คุณจินตนาการออกไหมว่าจะเกิดอะไรถ้าอีเบย์ใช้โลโก้เก่าที่น่าเบื่อแบบนี้
เราเห็นด้วยกับ Griff โชคดีที่ในปีค.ศ. 1997 บริษัทได้ว่าจ้างเอเจนซี่โฆษณา CKS Group ของ Bill Cleary, Mark Kvamme และ Tom Suiter ทั้งสามคนเคยทำงานที่ Apple Computers ให้ปรับปรุงอัตลักษณ์องค์กร ซึ่งรวมถึงรูปภาพ ลักษณะตัวอักษร เว็บไซต์ และคำแนะนำเกี่ยวกับการโฆษณา
เราเคยคุยกับ Cleary ที่เป็นหัวหน้าทีมออกแบบผู้สร้างโลโก้อีเบย์เกี่ยวกับกระบวนการปรับปรุงภาพลักษณ์ และไอเดียที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบโลโก้ เขาอธิบายว่า
เรามองเว็บไซต์นี้เป็น Social Network เว็บแรกของโลก ผู้คนมารวมกันด้วยความสนใจเดียวกัน คนที่สะสมรถโบราณ คนที่สะสมตุ๊กตาทหาร คนที่สะสมของที่ระลึกสมัยสงครามกลางเมือง เราเรียกพวกเขาว่า ชนเผ่าอีเบย์  ด้วยจำนวนเผ่าที่หลากหลาย เว็บจึงดึงดูดผู้คนที่แตกต่างกันเข้ามา เราต้องการสร้างบางสิ่งที่สะท้อนถึงฐานผู้บริโภคที่หลากหลายที่สุด
มาต่อกันบทความหน้านะครับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาค 2



เรามาต่อจากบทความที่แล้วกันนะครับ
การเปลี่ยนชื่อจาก AuctionWeb เป็น Ebay ถูกตัดสินใจโดย Omidyar และ Jeffrey Skoll  พนักงานที่ปฏิบัติงานเต็มเวลาคนแรกของบริษัทอีเบย์และเป็นประธานบริษัทอีเบย์ในช่วงกลางปี 1997 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากลูกค้าส่วนใหญ่ที่มักจะเรียกเว็บไซต์นี้ว่า Ebay รวมถึงสื่อต่างๆ ก็เขียนถึงเว็บนี้ว่า Ebay มากกว่า AuctionWeb  ชื่อถูกเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ค.ศ. 1997 และมีการย้ายผู้ใช้ที่มีอยู่ไปยังเว็บที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่โดยมีรูปภาพในหน้าเว็บมากขึ้น และยังเป็นการเปิดตัวโลโก้อีเบย์ ที่มี 4 สีแบบที่เรารู้จักในทุกวันนี้
แล้วชื่อ Ebay มันมาจากไหน ก่อนที่ AuctionWeb จะเกิดขึ้น Omidyar ไปที่เมือง Sacramento เพื่อจดทะเบียนโดเมน echobay.com สำหรับใช้กับธุรกิจของเขาที่ชื่อ Echo Bay Inc. แต่ชื่อนั้นถูกคนอื่นจดไปแล้ว เขานึกถึงชื่อ Ebay ขึ้นมาในตอนนั้นและดำเนินการจดทะเบียนในทันที
โลโก้ AuctionWeb สี่เหลี่ยมสีขาวดำ ดูอัปมงคลถึงขนาดที่พนักงานที่บริษัทอีเบย์เองยังเรียกมันว่า  แท่งแห่งความตายอ้างอิงจาก The Perfect Store: Inside eBay หนังสือเล่าประวัติของอีเบย์ Steve Westly หนึ่งในผู้บริหารรุ่นแรกของอีเบย์คิดว่ามันน่ากลัวถึงขนาดทำให้พันธมิตรที่มีศักยภาพของบริษัทหนีหายไปกันหมด
ในช่วงสั้นๆ ของปีค.ศ. 1997 โลโก้ของอีเบย์ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสีน้ำเงินที่น่าดูมากขึ้น แต่มันยากที่จะหาโลโก้นี้บนอินเทอร์เน็ตเพราะมันไม่ถูกใช้มานานมาก และไม่มีอยู่บนเว็บอีเบยเองด้วย มีเพียงที่เดียวที่จะพบโลโก้นี้ได้คือประกาศขายสินค้าบนอีเบย์ที่โพสต์โดย Jim Griffith ตัวแทนฝ่ายขายคนแรกของอีเบย์ และปัจจุบันเป็นผู้จัดรายการ eBayRadio
ต่อบทความหน้านะครับ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอีเบย์ ภาค 1



อีเบย์เป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสินค้าหลายร้อยล้านรายการที่ถูกประกาศขายอยู่ ตั้งแต่การก่อตั้งในปี 1995 บริษัทเติบโตจากโปรแกรมเมอร์เพียงคนเดียวเท่านั้น  จากนั้นก็กลายเป็นบริษัทที่มีพนักงานรวมแล้วมากกว่า 15,000 คน เลยทีเดียว ช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาบริษัทอีเบย์กลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากการจัดอันดับของ Fortune 500 และเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกจดจำได้มากที่สุดของโลก
Ebay Logo Sculpture ตลอดเวลาที่ผ่านมา โลกได้ทึ่งกับสินค้าสุดแปลกที่ถูกประกาศขายบนเว็บไซต์อีเบย์ ตั้งแต่หมากฝรั่งเคี้ยวแล้ว เมืองทั้งเมือง หรือแม้แต่สามีหรือภรรยาของตัวเอง การที่ทุกคนสามารถประกาศขายสินค้าอะไรก็ได้นั้น แต่มีข้อจำกัดกับสินค้าบางตัว ทำให้เว็บนี้กลายเป็นสถานที่ที่น่าสนใจที่สุดในการหาสินค้าแปลกหรือหายาก
เรามองลึกลงไปยังประวัติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังของอีเบย์และรวบรวมมาเป็นเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับบริษัทนี้
เว็บอีเบย์ที่เรารู้จักกันถูกเปิดตัวในช่วงสุดสัปดาห์วันแรงงานในปี 1995 ในชื่อของ AuctionWeb โดย Pierre Omidyar จากในห้องพักของเขาใน San Jose, California
AuctionWeb เป็นเพียงหนึ่งในสี่เว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้บริษัท Ebay Internet ของ Omidyar อีกสามเว็บไซต์ได้แก่ เว็บท่องเที่ยวที่ก่อตั้งร่วมกับหุ้นส่วนซึ่งเป็นตัวแทนขายทัวร์ใน San Jose เว็บสำหรับช่วยในการช็อปปิ้ง และเว็บให้ข้อมูลไวรัสอีโบล่า
เดี๋ยวเรามาต่อบทความหน้ากันนะครับ

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ระบบชำระเงินออนไลน์ PayPal (ต่อ)



- PayPal  ผู้ให้บริการระบบการชำระเงินมีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น และก็คงมีแนวโน้มในการขยายตัวของธุรกิจการให้บริการระบบการชำระเงินทางโมบายด้วย
- การชำระเงินทางโมบายในช่วงที่ผ่านมามีอยู่ก็จริง แต่มักจะประกอบด้วยรายการชำระเงินรายการเล็กๆ น้อยๆ เช่น ค่าหนังสือพิมพ์ เครื่องดื่ม อาหาร โดยผ่านการสัมผัสหน้าจอมือถือ จึงยังมีโอกาสทางธุรกิจการให้บริการชำระเงินผ่านออนไลน์และโมบายเพิ่ม ขึ้น ควบคู่กับความพร้อมของผู้ให้บริการระบบปฏิบัติการบนโมบาย
- ผลการสำรวจของ GFK ในกลุ่มลูกค้า 8,603 ราย ใน 9 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สหรัฐ  เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน บราซิล อิตาลี จีน เกาหลีใต้ ช่วยให้เห็นว่าพัฒนาการของระบบการชำระเงินทางออนไลน์ บวกโมบายในอนาคตดีขึ้น ผู้ตอบในจีนระบุว่าเริ่มใช้บริการชำระเงินผ่านทางออนไลน์และโมบายราว 82% ซึ่งมากที่สุด รองลงมาคือในบราซิล 73% เกาหลีใต้ 72% ฝรั่งเศส 42%
ด้วยความมั่นใจ PalPay จึงตัดสินใจตัดความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรกับอาลีเอ็กซ์เพรสของอาลีบาบากรุ๊ปในเครือข่ายของยาฮู  แล้ หลังจากปริมาณการโอนเงินในจีนมีมากกว่า 4,400 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อนหน้า
สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ว่ายุโรปและสหรัฐ  มีความกระตือรือร้นในการใช้ระบบการชำระเงินทางโมบายเพิ่มน้อยกว่าในประเทศ กำลังพัฒนา เพราะร้านค้าปลีกรายใหญ่นิยมการพัฒนาระบบการชำระเงินของตนเอง หรือมีความร่วมมือกับผู้ให้บริการเดบิตหรือเครดิตการ์ดแทน

ระบบชำระเงินออนไลน์ PayPal



ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการซื้อขายผ่านการชำระเงินทางโมบายเป็นที่น่าสนใจคือที่ผ่านมา PayPal ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการดูแลข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัย ถูกต้อง แม่นยำในการโอนเงิน
การโหวตมาจากลูกค้าที่ใช้บริการในตลาดหลักๆ ในโลกถึง 9 ตลาด ย่อมแสดงถึงความได้เปรียบด้านการแข่งขันของ PayPal ที่เพิ่มขึ้น
จุดที่น่าสนใจทางการตลาดในความสำเร็จด้านการให้บริการระบบการชำระเงินทางออนไลน์ในส่วนของเอกชน และกำลังก้าวออกไปถึงการชำระเงินผ่านโมบาย มีหลากหลายประการ คือ
- ในบรรดาผู้ประกอบการที่ให้บริการทางการเงินด้วยระบบการชำระเงินค่าซื้อขาย สินค้าทางออนไลน์นี้ มีแบรนด์เก่าแก่และชื่อเสียงของผู้ใช้บริการอยู่ด้วยกันหลายราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์วีซ่าและมาสเตอร์การ์ด
ขณะเดียวกันก็ยังมีแบรนด์ใหม่ๆ รายอื่น  ที่เกิดขึ้นและได้รับความน่าเชื่อถือในระดับต้น ซึ่งพัฒนาระบบการชำระเงินเพื่อดูแลลูกค้าที่ใช้บริการในด้านนี้
โดยปกติ การจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่เชื่อถือโดยเฉพาะด้านเงินๆ ทองๆ อย่างระบบการชำระเงินทางออนไลน์       ระดับโลกไม่ง่ายนัก และที่ผ่านมาแต่ละแบรนด์ต้องใช้ความพยายามและใช้เวลามาก
แต่ในกรณีของ PayPal ผู้ใช้บริการกลับให้ความไว้วางใจกับแบรนด์นี้อย่างรวดเร็ว
- ความล้มเหลวของสถาบันการเงินเก่าแก่ในสหรัฐ  ยุโรป โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงที่เกิดวิกฤตซับ-ไพรม์ หรือกรณีจรรยาบรรณวิบัติในการให้สินเชื่อเคหะแก่ลูกค้าด้อยคุณภาพ จนสร้างการบริหารงานที่เหลวแหลก และเกิดการล้มละลายของผู้ให้บริการทางการเงินขนาดใหญ่หลายราย อาจจะเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้บริการทางการเงินหมดความไว้ วางใจในสถาบันการเงินและผู้ให้บริการทางการเงินรายเก่าๆ และหันกลับมาให้ความเชื่อถือกับผู้ประกอบการรายใหม่รวมทั้ง PayPal

เกี่ยวกับระบบชำระเงิน PayPal



การพัฒนาของระบบการให้บริการผ่านโมบายที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ ได้มีส่วนช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าและการเติบโตทางธุรกิจของผู้ ประกอบการที่ให้บริการระบบการชำระเงินผ่านทางออนไลน์ ที่ชื่อ PayPal ธุรกิจในเครือข่ายของ Ebay ที่ทำธุรกิจให้บริการซื้อขายสินค้าสารพัดผ่านระบบการประมูลทางออนไลน์ จนมีขนาดการประกอบการใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้
PayPal ทำหน้าที่หลักในการช่วยสนับสนุนให้ ผู้ที่ขายและซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์สามารถจ่ายเงินและโอนเงินผ่านทาง อินเทอร์เน็ตได้ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2541 โดยในตอนนั้นมีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของร้านค้าตลาดออนไลน์ Ebay
ในราวปลายปี 2545 PayPal ได้ปรับขยายการดำเนินงานเป็นระบบการชำระเงินระหว่างผู้ซื้อขายที่ทำ หน้าที่แทนการชำระด้วยเงินสด เช็ค หรือบัตรเครดิต โดย PayPal มีรายได้ในรูปค่าบริการในการจัดระบบการชำระเงินทางออนไลน์ไว้ให้ ลูกค้าและ Ebay ได้เข้าไปทำการซื้อกิจการของ PayPal และเป็นผู้ถือหุ้น 100% จนปัจจุบัน
เมื่อพูดถึงธุรกิจระบบการชำระเงินบนตลาดออนไลน์ หลายคนคิดว่าคงเป็นกิจการเล็กๆ ทำหน้าที่สนับสนุนการซื้อขายของตลาดออนไลน์
แต่ในความเป็นจริง การเติบโตของวิธีการชำระเงินผ่านทางตลาดออนไลน์ด้วยการซื้อขายผ่านระบบนี้ มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้จำกัดอยู่แต่เฉพาะอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป หากแต่มีแนวโน้มว่าลูกค้าและผู้ใช้บริการของระบบการชำระเงินจะเพิ่มการใช้ บริการผ่านทางโมบายมากขึ้น และยังทำท่าจะเติบโตในช่องทางใหม่นี้อย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายอีกด้วย

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การเปิดบัญชีธนาคารในสหรัฐ โอนเงินเข้าธนาคารกรุงเทพที่ประเทศไทยทางอินเตอร์เน็ต



สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าธรรมเนียม ประหยัดเวลา
ประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนเงินจากสหรัฐอเมริกากลับประเทศไทยได้ด้วยวิธีง่ายๆ
ผ่านระบบ Automated Clearing House ( US ACH ) ของสหรัฐอเมริกา
US ACH คือ ระบบการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินกว่า 12,000 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา
Routing Number หรือ Routing Transit Number ( RTN ) คือตัวเลขรหัสธนาคารหรือสถาบันการเงิน 9 หลัก กำหนดโดย American Bankers’ Association
ใช้สำหรับระบุการส่งคำสั่งโอนเงินจากธนาคารผู้ส่งไปยังธนาคารผู้รับผ่านระบบ US ACH ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา
Routing Number ของธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก 9 หลัก คือ 0 2 6 0 0 8 6 9 1
ธนาคาร กรุงเทพมีสาขาใน นิวยอร์ค จึงมี Routing Number คือ เราโอนเงินออกจากธนาคาร US ไปธนาคารกรุงเทพในสาขานิวยอร์ค เหมือนกับเราโอนเงินไปธนาคารอื่นๆ ใน US
ส่วนธนาคารกรุงเทพสาขานิวยอร์คก็จะ โอนเข้าธนาคารกรุงเทพของตัวเองไปเข้าบัญชีของเราในประเทศไทย
บาง คนที่เคยโอนเงินต่างประเทศก็จะคุ้นกับ ระบบ SWIFT ซึ่งเป็นการโอนเงินข้ามประเทศโดยตรง เป็นคนละระบบกัน แบบ Swift ค่าธรรมเนียมจะแพงกว่าเพราะโอนข้ามออกต่างประเทศโดยตรง
ต่าง กับ Routing Number เป็นการโอนเงินภายในประเทศ US ธนาคารไทยอื่น ๆ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์  ไม่มีสาขาในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงจะใช้ระบบ Routing Number ไม่ได้ ใช้แต่ SWIFT CODE อย่างเดียว

การเปิดบัญชีเป็นผู้ขาย



เลือกได้ 2 แบบ
- E-Web Card ของธนาคารกสิกรไทย  จะเป็นเหมือน Virtual Credit Card คือมีแต่ตัวเลขมาให้เท่านั้น ไม่มีตัวบัตรจึงไม่สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าได้
- บัตร Be 1st ของธนาคารกรุงเทพ จะเป็นบัตรเดบิตธรรมดา สามารถใช้ได้ทั้งในโลกออนไลน์และโลกจริง
ขอแนะนำ บัตร Be 1st เพื่อใช้สมัคร PayPal และ Ebay
ขั้นตอนแรก เปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ
ตอนทำบัตรให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะนำบัตรไปซื้อสินค้าออนไลน์  ขอดูว่าหลังบัตรมีเลข 3 หลักด้วยหรือไม่
ขั้นตอนหลังได้รับบัตร  Verified by Visa ติดต่อธนาคารกรุงเทพ  1333
กด 1 เลือกภาษาไทย
กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
กด 1 ยืนยัน เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
กดหมายเลข 16 หลัก หน้าบัตร Be1st ของคุณ
กดเลขบัตรเอทีเอ็ม 4 หลัก คือรหัสที่คุณใช้กดเงินออกจากเอทีเอ็ม
กดตั้งหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ
กด #
กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลัก เดิมอีกครั้งอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน
กด #
นำหมายเลขอ้างอิง ไป Verified by Visa ที่เว็บไซต์ของ ธ.กรุงเทพ
ให้ทำการตั้งวงเงินซื้อสินค้าออนไลน์
ติดต่อไปที่ ธนาคารกรุงเทพ  1333
กด 1 เลือกภาษาไทย
กด 3 เปลี่ยนวงเงินบัตร Be1st
กด 3 อีกครั้งเพื่อเปลี่ยนแปลง/ตั้งวงเงินบัตร
กดหมายเลข 16 หลัก คือหมายเลขที่อยู่หน้าบัตรเอทีเอ็ม
กดรหัสบัตรเอทีเอ็ม 4 หลัก
กด 2 เพื่อเปลี่ยนแปลงวงเงินที่ใช้ซื้อสินค้าต่อวัน
กด 1 เพื่อตั้งวงเงิน 20,000 บาท

ปัจจัยที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า ภาค 2



มาต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
- เวลาในการจัดส่งและบริการ
เวลา ในการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศนั้นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและปลายทาง ดังนั้นจะใช้เวลาเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณส่งสินค้าจากที่ไหนไปที่ไหน ซึ่งแน่ นอนว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าการส่งของในประเทศ พิธีการศุลกากรจะทำให้การส่งของช้าลงถ้าพัสดุของคุณถูกตรวจสอบ อย่าลืมกรอกเอกสารศุลกากรให้ถูกต้องเพื่อป้องกันความล่าช้า
- การประกันสินค้า
ผู้ขายควรจะประกันสินค้าที่ส่งไปต่างประเทศเสมอ ถ้าบริษัทจัดส่งสินค้าไม่รับประกันให้กับคุณ อัตโนมัติ บริษัทส่งของบางแห่งรับประกันความเสียหายให้สินค้าของคุณถึง $100 โดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับบริษัทนั้นๆ ถ้าสินค้าของคุณมีมูลค่ามากกว่า $100 คุณอาจจะต้องซื้อประกันเพิ่มเติม การบรรจุหีบห่อที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าสินค้าเสียหายเนื่องมาจากการบรรจุหีบห่อที่ไม่ดี บริษัทที่ส่งสินค้าอาจจะไม่รับผิดชอบ เวลาที่เลือกบริษัทส่งสินค้า คุณควรจะตรวจสอบว่าเขารับประกันสินค้าของคุณหรือไม่ เพราะว่าของใช้ส่วนตัวเช่น คอมพิวเตอร์ อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
- ความยุ่งยากซับซ้อนของการส่งของระหว่างประเทศ
สินค้าทุกชิ้นที่ถูกส่งออกหรือนำเข้าต้องผ่านการดำเนินการด้านศุลกากรก่อนที่จะ เข้าประเทศปลายทาง มีเอกสารบางอย่างต้องใช้ในการเดินเรื่อง กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานรัฐบาลที่มีหน้าที่ควบคุมของที่ส่งเข้าประเทศ
คุณต้องเตรียมเอกสารที่ถูกต้องเพื่อที่สินค้าที่คุณส่งจะไม่ถูกกักอยู่ที่กรมศุลกากรอย่างไม่มีกำหนด บริษัทส่งสินค้าสามารถช่วยคุณในเรื่องเหล่านี้ได้ก่อนที่คุณจะส่งสินค้า คนขายอาจจะต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมถ้าของถูกตีกลับเพราะว่าไม่ผ่าน ศุลกากรหรือของอาจจะถูกกักถ้าบริษัทส่งสินค้าของคุณไม่ไปเตรียมเรื่องกับกรมศุลกากรล่วงหน้า บริษัทส่งของส่วนใหญ่ให้บริการส่วนนี้อยู่แล้ว

วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปัจจัยที่ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้า ภาค 1



ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ
- ค่าขนส่งสินค้า
ค่าขนส่งสินค้าไปต่างประเทศนั้นอาจมีราคาสูงขึ้นซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างดังนี้
น้ำหนักและขนาดของพัสดุ
วิธีการส่ง
สถานที่ที่ผู้ขายจะไปส่งสินค้า ( จังหวัดและประเทศ )
สถานที่ที่ผู้ขายจะส่งสินค้าไปให้ ( ประเทศปลายทาง )
ดังนั้นราคาค่าส่งส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับคุณส่งอะไร ไปที่ไหน และส่งแบบไหน
ค่าขนส่งสินค้าจะสูงขึ้นถ้าคุณส่งไปยังต่างประเทศ โดยปกติคนซื้อจะเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างๆที่อาจจะมีเช่นค่าภาษีนำเข้า ค่าส่งสินค้าไปต่างประเทศอาจจะรวมค่าที่คนต้องไปออกของมาจากศุลกากรและไปส่ง ให้ที่อยู่ของลูกค้าคุณหรือไม่ก็ได้ พัสดุของคุณจะไปถึงที่อยู่ปลายทางแต่ลูกค้าของคุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บริษัทส่งสินค้าบางแห่งจะให้บริการด้านศุลกากรเพื่อที่คุณจะได้รู้ก่อนว่าคุณจะ ต้องบอกอะไรบ้างแก่ลูกค้าคุณในเรื่องที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและภาษีนำเข้า ลูกค้าคุณอาจจะต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมถ้าเขาอยู่ในเขตที่ห่างไกลออกไป
- เวลาในการจัดส่งและบริการ
เวลา ในการจัดส่งของระหว่างประเทศนั้นแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและปลาย ทาง ดังนั้นจะใช้เวลาเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณส่งของจากที่ไหนไปที่ไหน ซึ่งแน่ นอนว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าการส่งของในประเทศ พิธีการศุลกากรจะทำให้การส่งของช้าลงถ้าพัสดุของคุณถูกตรวจสอบ อย่าลืมกรอกเอกสารศุลกากรให้ถูกต้องเพื่อป้องกันความล่าช้า
เดี๋ยวเรามาต่อกันบทความหน้านะครับ

คำแนะนำสำหรับการส่งของ



เรามาต่อเกี่ยวกับการจัดส่งสินค้ากันเลยดีกว่า
- สินค้าประเภทผ้าและวอลล์เปเปอร์ วิธีการส่งที่ดีที่สุดนั้นในการส่งสินค้าที่เป็นม้วนคือใช้กล่องกันกระแทก ถ้าผู้ขายส่งผ้าที่เป็นม้วนโดยใช้ถุง อย่าลืมห่อและปิดเทปให้แน่นหนาเพื่อป้องกันการขาด แปะฉลากส่งของซ้ำที่ตัวแกนกลางของม้วนหรือระหว่างชั้นบนของวัสดุ
- สินค้าประเภทอุปกรณ์ถ่ายภาพ อุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์  ควรที่จะใช้กล่องที่มาจากโรงงาน ถ้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์โผล่มาด้านนอกให้เห็น ควรจะห่อด้วยวัสดุที่ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ห้ามใช้เม็ดโฟมกันกระแทก กระดาษห่อของสีน้ำตาล แผ่นโฟม ผ้าห่อของหรือการดาษหนังสือพิมพ์ อย่าลืมประกันสินค้าตามความเหมาะสมด้วย
- สินค้าประเภท ของสะสม เครื่องปั้นดินเผา เครื่องแก้ว สำหรับสินค้าที่อาจจะมีการแตกหักได้ง่าย ดังนั้นกล่องใส่ด้านนอกต้องใหญ่พอสมควร โดยที่ต้องมีที่เหลือในทุกด้านอย่างน้อย 3 นิ้ว ห่อของและแยกใส่กล่องแต่ละชิ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้ากระทบกัน วางสินค้าในบริเวณตรงกลางของกล่องและอยู่ห่างจากตัวกล่องทุกด้านเพื่อป้องกันความเสียหาย ถ้าสินค้ามีช่องว่างตรงกลาง ให้ผู้ขายหากระดาษใส่ลงไปเพื่อทำให้ของตัน
- สินค้าประเภทเหรียญ แสตมป์หรือจิวเวลลี่ ควรใช้กล่องใหญ่พอสมควรเพื่อที่จะให้ของส่งได้ง่ายขึ้น และประกันสินค้าตามความ เหมาะสม การจัดส่งจิวเวลลี่และอัญมณีข้ามประเทศนั้น อาจมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ผู้ขายควรตรวจสอบกับบริษัทจัดส่งสินค้าด้วย

การจัดส่งสินค้าอย่างไรที่จะช่วยให้ผู้ขายสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้
ค่าส่งสินค้าไปต่างประเทศนั้นอาจมีราคาสูงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เดี๋ยวไปต่อกันที่บทความหน้านะครับ

การบรรจุหีบห่อ



วันก่อนเราพูดถึงรูปแบบการขายกันไปแล้ว วันนี้เรามาพูดถึง การบรรจุหีบห่อกันบ้าง
ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อให้การบรรจุหีบห่อเป็นไปด้วยความราบรื่น
- ห่อสินค้า
แยกห่อสินค้าแต่ละชิ้นและใส่สิ่งกันกระแทกมากๆ เช่น บับเบิ้ลห่อสินค้า แผ่นโฟม  เม็ดโฟม กระดาษที่นำมาขยำเป็นก้อนเม็ดโฟมและแผ่นโฟมกันกระแทกอาจจะขยับได้ระหว่างการจัดส่ง ผู้ขายควรจะใส่ลงไปให้มากจนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงสินค้ากระทบกัน
- บรรจุกล่อง
ใช้กล่องส่งสินค้าแบบกันกระแทกใบใหม่ เว้นให้มีที่เหลือสำหรับวัสดุกันกระแทกทุกด้านด้วย ห้ามใส่เกินน้ำหนักที่กำหนไว้ ถ้าคุณจะใช้กล่องใช้แล้วให้ลอกฉลากต่างๆออก และอย่าลืมว่าน้ำหนักที่ใส่ได้สูงสุดอาจจะลดลงไปเนื่องจากเป็นกล่องใช้แล้ว
- ปิดผนึก
ใช้เทปที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในการส่งสินค้าโดยเฉพาะ ห้ามใช้เทปกั้นทาสี เทปใส เชือกหรือกระดาษห่อ ผู้มีประสบการณ์แนะนำให้ใช้เทปที่เป็นพลาสติกหรือเสริมด้วยไนลอนหรือเทปกาว ที่ใช้น้ำทา
สินค้าบางอย่างต้องใช้การบรรจุหีบห่อเป็นพิเศษ
เช่น สินค้าประเภท ของเก่า ของสะสม หรืองานศิลปะ  เป็นต้น เอากระจกออกและคลุมปิดด้วยตัวป้องกันกระจก  “glassmask” หรือ “glass-skin” ห่อต่างหาก (อย่าใช้ตัวป้องกันกระจกแบบนี้บนกระจกแบบที่ลดแสงสะท้อนเพราะจะทำให้พื้น ผิวกระจกเสียหายได้) อย่าให้ตัวงานศิลปะโดนกระดาษหรือตัวกล่อง ถ้าคุณต้องการระบุราคา อย่าลืมเก็บใบเสร็จจากคนตีราคาที่เป็นที่ยอมรับไว้เผื่อว่าคุณต้องทำเรื่อง เคลมกับบริษัทจัดส่งสินค้า

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557



รูปแบบการขาย
เรามาต่อกันจากครั้งที่แล้ว เกี่ยยวกับรูปแบบการขาย
สินค้าที่ คุณต้องการจะขายเป็นสินค้าทั่วไปหรือเปล่า ลองขายด้วยราคาตายตัว  หลังจากที่คุณได้ลองหาดูแล้วว่าสินค้าของคุณขายกันอยู่ที่ราคาเท่าไรในท้อง ตลาด การขายแบบราคาตายตัวนี้ทำให้คุณขายสินค้าได้ทันทีในราคาที่คุณอยากได้และใน จำนวนที่คุณอยากจะขาย
คุณต้องการให้คนซื้อเลือกว่าต้องการจะซื้อแบบไหนหรือไม่ ขายแบบการประมูลและตั้งให้คนเลือกซื้อได้เลยถ้าต้องการ Buy It Now
คุณ มีของที่ไม่เหมือนใครหรือของหายากหรือเปล่า การขายแบบการประมูลจะเป็นวิธีที่ทำให้คุณได้ราคาดีที่สุดสำหรับของประเภทนี้ อย่าไปกลัวกับการลองขายด้วยรูปแบบต่างๆ คุณจะค้นพบรูปแบบที่เหมาะกับสินค้าของคุณในเวลาไม่นาน
สินค้า
เมื่อ พูดถึงการซื้อของออนไลน์ใดๆก็ตามจะมีจุดๆหนึ่งที่มีผลในทางบวกหรือลบต่อการ ตัดสินใจซื้อและราคาที่คนซื้อยอมที่จะจ่าย จุดๆนี้อาจเป็นไปได้ตั้งแต่การทำความเข้าใจว่าของที่จะขายนี้คืออะไร การส่งของและการชำระเงิน จนไปถึงความน่าเชื่อถือของคนขาย
ชื่อสินค้า
ตัว อักษรทุกตัวในชื่อสินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คนหาของที่คุณขายเจออย่าง ง่ายดาย คุณควรจะจำไว้ว่าคุณใส่ชื่อสินค้าได้ 55 ตัวอักษร ใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ใส่คำบอกถึงหมวดหมู่สินค้าที่คุณขายเช่น  laptop  ใส่ข้อมูลต่างๆที่บอกคุณสมบัติของสินค้าที่คุณขาย เช่นชื่อสินค้าของ laptop ก็ควรจะบอกยี่ห้อ ความเร็วและหน่วยความจำด้วย หลีกเลี่ยงการใช้คำย่อที่ไม่ใช้กันและการสะกดคำผิด คำนึงถึงคีย์เวิร์ดที่คนใช้ในการค้นหามากที่สุด คีย์เวิร์ดอื่นๆที่ได้รับความนิยมเช่น New, Free Postage,Warranty เป็นต้น

ขายอย่างไรให้ไม่ให้ขาดทุน



สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแนะนำ เกี่ยวกับการขายกันดีกว่า
การ ขายของเป็นเรื่องง่ายเมื่อคุณรู้กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ ทำตามข้อควรปฏิบัติง่ายๆเหล่านี้ที่คนขายที่ประสบความสำเร็จบนอีเบย์ใช้กัน และคอยดูยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การค้นคว้าหาข้อมูล คุณสามารถค้นหาของที่จบการขายไปแล้วได้3วิธี
1.เลือก Completed Listings ในการค้นหา
2.หน้ารวมรายการสินค้าที่จบการขายไปแล้ว
3.สินค้าที่จบการขายไป แล้วใน advanced search
ก่อนที่จะขายของบนอีเบย์คุณควรจะค้นหาข้อมูล สินค้าที่คล้ายๆกับของที่คุณจะขายและขายได้แล้ว คุณจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายเกี่ยวกับการตั้งราคา การเลือกใช้คุณลักษณะต่างๆ และคำพูดที่ควรใช้เพื่อดึงดูดคนซื้อ เปรียบเทียบสินค้าของคุณกับของที่ขายไปแล้วโดยดูจากรายการที่ปิดการขายไป แล้ว รายการที่ปิดการขายไปแล้วจะบอกคุณว่าอะไรขายได้บ้างที่ราคาเท่าไร ช่วยให้คุณตั้งราคาขายของคุณ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าคนขายแต่ละคนคิดค่าส่งเท่าไร เมื่อคุณพร้อมที่จะขายแล้ว เพียงแค่คลิกที่ลิงค์  List an item like this เพื่อเริ่มขายสินค้าของคุณที่คล้ายๆกับรายการนั้น
การตั้งราคา
- เริ่มด้วยราคาที่ต่ำ
- การตั้งราคาขั้นต่ำ (Reserve price)
รูปแบบการขาย
คน ซื้อจำนวนมากสนุกและตื่นเต้นกับการซื้อสินค้าแบบการประมูล หลายคนชอบที่จะซื้อแบบทันที  ถ้าคุณขายของอยู่รูปแบบเดียวคุณก็จะเข้าไม่ถึงคนซื้อทั้งหมดบนอีเบย์ นอกจากนี้รูปแบบการขายบางอย่างทำให้สินค้าขายได้ดีกว่าอีกอย่างขึ้นอยู่กับ ว่าคุณใช้มันอย่างไร

สายด่วนสำหรับผู้ขาย



สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง สายด่วน สำหรับผู้ขายกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ
001-800-441- 810 (โทรฟรี)
หากฉันติดต่อเข้าไปยังสายด่วนสำหรับผู้ขาย แล้ว เจ้าหน้าที่จะสามารถแก้ปัญหาให้ฉันได้ในทันทีหรือไม่
ขึ้นอยู่กับปัญหา ปัญหาบางอย่างสามารถแก้ไขได้ในทันที แต่ในบางปัญหาผู้ขายอาจต้องดำเนินการเพิ่มเติม เช่น ตรวจสอบบัญชีผู้ใช้  หรือส่งเอกสารเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการสายด่วนสำหรับผู้ขาย จะช่วยเหลือผู้ขายและให้คำแนะนำเพื่อให้ผู้ขายสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบประเด็นปัญหานั้น
หากฉันต้องอัพโหลดเอกสารเพื่อส่งยืนยันบัญชีผู้ใช้ จะต้องทำอย่างไร
เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการสายด่วนสำหรับผู้ขาย จะส่งลิงค์สำหรับอัพโหลดเอกสารให้แก่ผู้ขาย เมื่อตรวจสอบบัญชีผู้ใช้แล้ว เจ้าหน้าที่จะติดต่อผู้ขายกลับเพื่อแจ้งให้ทราบผลการตรวจสอบ
หากสายด่วนสำหรับผู้ขายไม่ว่าง ต้องทำอย่างไร
ผู้ขายสามารถฝากข้อความเสียง  โดยให้ข้อมูลบัญชีอีเบย์และหมายเลขสำหรับติดต่อไว้ เจ้าหน้าที่จะโทรกลับไป ไม่เกิน 1 วันทำการ
ผู้ขายสามารถติดต่อเข้ามาในวันหยุดทำการได้หรือไม่
กรุณาโทรติดต่อเข้ามาที่สายด่วนสำหรับผู้ขาย ได้ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ 9.00-17..30 นาฬิกา (ตามเวลาประเทศไทย)
กรณีที่ผู้ซื้อเปิดข้อร้องเรียนหรือขอคืนเงิน ผู้ขายสามารถร้องเรียนผ่านสายด่วนสำหรับผู้ขาย ได้หรือไม่
บริการสายด่วนสำหรับผู้ขาย ไม่สามารถแก้ไขข้อร้องเรียนให้ผู้ขายได้ แต่สามารถแนะนำวิธีและช่องทางที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้ขายสามารถยื่นอุทธรณ์กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่รับผิดชอบได้
จะต้องทำอย่างไร หากฉันมี Account Manager ดูแลอยู่แล้ว
ผู้ขายที่มี Account Manager ดูแลอยู่แล้วก็สามารถติดต่อเข้ามาที่สายด่วนสำหรับผู้ขายได้ อย่างไรก็ตามผู้ขายสามารถเลือกติดต่อ Account Manager ได้ตามปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการปรึกษาหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการขยายธุรกิจ
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ขายตั้งแต่ระดับ Gold PowerSeller ขึ้นไป ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมี Account Manager คอยดูแลอยู่ Account Manager จะเป็นผู้ติดต่อกับผู้ขายโดยตรงเพื่อแจ้งให้ทราบว่าตนเป็นผู้ดูแลบัญชีของผู้ขายท่านนั้น

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เปรียบเทียบระหว่างอีเบย์กับอเมซอน ภาค 2



สวัสดีครับ เรามาต่อกันจากบทความที่แล้วกันเลยดีกว่า ครั้งที่แล้วเราพูดถึงอเบย์ ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงอเมซอน
amazon มีชื่อเสียงมากในเรื่องการขายหนังสือ หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อ amazon kindle ซึ่งในเว็บช่วงแรกๆนั้นคนก็จะรู้จักว่ามีขายหนังสือ ดีวีดีหนัง แต่ปัจจุบันนี้อเมซอน  มีขายแทบจะทุกอย่างหลากหลายหมวดหมู่ แถมยังเปิดโอกาสการสร้างรายได้ให้บุคคลทั่วไป โดยการเป็นผู้แนะนำเหมือนเป็นนายหน้าให้ผู้อื่นเข้ามาซื้อสินค้าในเว็บอเมซอน โดยไม่ต้องเปิดร้านค้าเอง และเมื่อมีผู้มาซื้อสินค้าที่เราแนะนำ เราก็จะได้ค่าแนะนำหรือค่านายหน้า ในยุคแรกของการขายสินค้าออนไลน์ ทั้งอีเบย์และอเมซอน ไม่ได้เป็นคู่แข่งกัน  แนวทางการขายต่างกันโดยสิ้นเชิง ทางอีเบย์เน้นการขายแบบประมูล ส่วนทางอเมซอน เน้นการขายแบบราคาตายตัว แต่ในปัจจุบันเป็นยุคแห่งการขายสินค้าออนไลน์ คนก็เข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ทั้งสองเว็บก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้มีทั้งการประมูลและแบบขายราคาตายตัวทั้งคู่ทำให้ต้องมาเป็นคู่แข่งกัน
ข้อดีของอเมซอน คือพยายามเอาใจคนค้ารายย่อยมากกว่าหวังผลกำไร โดยเสนอให้ผู้ค้ารายย่อยนำสินค้ามาเก็บในคลังสินค้าของตน เองแบบฟรีๆ ช่วยลดปัญหาค่าใช้จ่ายในการดูแลสินค้า ทำให้ได้ใจผู้ค้ารายย่อยไปเต็มๆ นอกจากนี้ ทางอเมซอนยังดูแลการขนส่งสินค้าด้วยตัวเอง

เปรียบเทียบระหว่างอีเบย์กับอเมซอน ภาค 1



สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบระหว่างอีเบย์กับอเมซอน
ebay  คือเว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีขายแบบไม่ต้องประมูลด้วย มีคนมากว่า 180 ล้านคนทั่วโลกเข้ามาประมูลซื้อขายสิ้นค้ากันภายในเว็บแห่งนี้ มีสินค้าไทยมากกว่าล้านชิ้นที่ขายอยู่บนเว็บไซต์ การให้บริการของอีเบย์จะมีในรูปแบบการประมูลออนไลน์และการขายสินค้าแบบปกติ ด้านผู้ขายสินค้าและซื้อสินค้าจะต้องเป็นสมาชิกกับอีเบย์ เท่านั้น  สินค้าที่จะขายภายในเว็บนั้นจะต้องไม่เป็นสินค้าต้องห้าม อาทิเช่น สินค้าปลอม สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าประเภทอาวุธหรือยาเสพติด เป็นต้น นอกจากนี้แล้ว อีเบย์ยังมีระบบจัดผู้ค้าดีเด่น โดยการให้ดาวและให้เหรียญเกียรติยศกับร้านค้าผ่านการโหวตของผู้ซื้อ ทำให้ร้านค้าในอีเบย์ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่วนการที่จะได้ดาวมาประดับหน้าร้านได้นั้น จะวัดจากปัจจัยต่างๆ เช่น สินค้าลงรายละเอียดตรงตามที่ให้เอาไว้ไหม  เวลาส่งสินค้าไปแล้วตรงตามที่ให้ไว้บนรูปที่โชว์บนเว็บหรือไม่  การติดต่อสื่อสารที่ดีกับลูกค้าก็เป็นส่วนสำคัญ มีการตอบคำถาม ข้อสงสัย กับลูกค้าเราได้รวดเร็วถูกต้อง ก็เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้มากขึ้น หรือการส่งสินค้าที่รวดเร็วตามกำหนดและค่าส่งสินค้าที่ไม่คิดแพงจนเกินไป บางร้านอาจจะมีบริการส่งฟรี ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มลูกค้าให้เราได้
ข้อดีของการขายสินค้าบนอีเบย์ ก็คือไม่ต้องเขียนโปรแกรม เขียนเว็บไซต์ให้ยุ่งยาก เพียงแค่สมัครสมาชิกบนเว็บอีเบย์ ก็ใช้งานได้เลย แถมยังสมัครฟรีด้วย สามารถขายสินค้าได้ทั่วโลก เป็นการช่วยเพิ่มฐานการตลาดสินค้าเราไปได้ไกลเลยทีเดียว แต่ก็ควรศึกษาค่าธรรมเนียมต่างๆให้ดี ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะขาดทุนได้

ประวัติ ebay



สวัสดีครับ วันนี้เรามาพูดประวัติของอีเบย์กันบ้าง
อีเบย์ก่อตั้งเป็นเว็บประมูลสินค้าในปี พ.ศ. 2538 (ค.ศ. 1995) โดย ปิแอร์ โอมิดดียาร์  ในเมืองแซนโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงแรกนายปิแอร์ต้องการตั้งชื่อเว็บไซต์ว่า เอโคเบย์.คอม (EchoBay.com) แต่ได้มีคนจดทะเบียนเว็บไซต์ไว้แล้ว จึงได้หาชื่ออื่นและได้กลายมาเป็น อีเบย์.คอม (eBay.com) ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2541 เม็ก วิตแมน ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทและซีอีโอ อีเบย์ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วมากที่สุดในโลก
สินค้าและบริการ
การวางขายสินค้าในอีเบย์ ใช้ลักษณะการประมูลสินค้าเป็นหลัก โดยสินค้าที่วางขายมีตั้งแต่ ของสะสม อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่ง รถยนต์ ซึ่งมีการขายสินค้ากันทุกวัน สินค้าบางชนิดเป็นสินค้าหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าของสะสมหลายอย่างได้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนเว็บไซต์อีเบย์เนื่องจาก ตลาดของผู้ซื้อและผู้ขายที่มารวมตัวกันมากพอ ที่ทำให้เกิดมีการซื้อขายเกิดขึ้น การจ่ายเงินในอีเบย์สามารถทำได้หลายระบบขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย โดยทางอีเบย์เองมีบริการระบบเพย์พาล ซึ่งอำนวยความสะดวกให้ทั้งสองฝ่ายโดยหักเงินส่วนหนึ่งเข้ากับทางเพย์พาลเอง
เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2547 อีเบย์ได้มีการห้ามขายสินค้าแอลกอฮอล์และบุหรี่ในเว็บไซต์ของอีเบย์สหราชอาณาจักร (ebay.co.uk)
ของที่ห้ามขายในอีเบย์
บุหรี่และยาสูบต่างๆ ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ อาวุธ และกระสุน อวัยวะมนุษย์
สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ อาทิ เสื้อฟุตบอลปลอม, นาฬิกาปลอม สินค้าของฝ่ายนาซี
สถิติของอีเบย์
สินค้าที่แพงที่สุดในอีเบย์ (ข้อมูลปี พ.ศ. 2545) - Prince of Tyre ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ ของปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ราคา £5 ล้าน
สินค้าที่ใหญ่ที่สุด - เรือดำน้ำของสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง วางขายโดยเมืองหนึ่งในเขตนิวอิงแลนด์

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นโยบายของ eBay



สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึง นโยบายของ eBay กันนะครับ
ผู้คนหลายล้านคนที่เข้ามาเว็บไซต์อีเบย์นั้น  มีทั้งคนที่ตั้งใจเข้ามาซื้อ-ขายแบบสุจริต และพวกมิจฉาชีพ
ดังนั้นอีเบย์ จึงได้มีการกำหนดกฏระเบียบต่างๆ ในการซื้อ-ขายสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นมาตรการในการป้องกันมิฉาชีพไปด้วยในตัว
นโยบายของอีเบย์ ที่จะพูดถึงประกอบด้วย
นโยบายทั่วๆไปสำหรับสมาชิกทุกคน
- ให้ Feedback ตามความเป็นจริงกับผู้ซื้อ-ขาย ที่ทำธุรกรรมร่วมกัน
- ห้ามสมัครสมาชิกด้วยที่อยู่และเบอร์ติดต่อที่ไม่ถูกต้อง
- ห้ามใช้คำหยาบ
- ห้ามข่มขู่คุกคามสมาชิกท่านอื่น
- ห้ามส่งอีเมล์ถึงสมาชิกคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติจากผู้รับ
นโยบายสำหรับผู้ขายสินค้า
- ห้ามขายสินค้าที่ทางเว็บไซต์อีเบย์ไม่อนุญาตให้ขาย
- ห้ามคิดค่าขนส่งสินค้าแพงเกินจริง
- ห้ามขายของปลอมหรือสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
- หากมีผู้ประมูลสินค้าชิ้นนั้นแล้ว ผู้ซื้อสินค้าจะยกเลิกการประมูลไม่ได้
- การนำเสนอสินค้า รูปภาพ และคำอธิบายต่างๆ จะต้องเป็นตามความจริงเท่านั้น
- ต้องส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อภายในระยะเวลาที่เหมาะสม
- ห้ามผู้ขายกระทำการใดๆ ที่เป็นการปั่นราคาสินค้าให้สูงขึ้น
นโยบายสำหรับผู้ซื้อสินค้า
- ห้ามผู้ซื้อสินค้าทำการประมูลสินค้าเพื่อปั่นราคา
- ในการประมูลผู้ซื้อสินค้าจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่ผู้ขายสินค้ากำหนดขึ้นเท่านั้น
- ถ้าหากเป็นผู้ชนะการประมูลจะต้องทำการจ่ายเงินค่าสินค้านั้นๆ
- ห้ามยกเลิกการประมูลที่ได้ทำไปแล้วโดยไม่มีเหตุอันควร

ระบบ eBay



สวัสดีครับ เรามาต่อกันเลยนะครับ คราวนี้เราจะมาพูดถึงระบบ Buyer Protection และระบบFeedback กันดีกว่านะครับ
- eBay มีระบบ Buyer Protection ที่จะช่วยทำให้ผู้ซื้อสินค้ามีความมั่นใจได้ว่าเมื่อทำการสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์อีเบย์แล้วจะไม่สูญเงินเปล่าโดยไม่ได้สินค้าแน่นอน  และหากเกิดผู้ขายสินค้ามีปัญหาในการไม่ส่งสินค้าให้ eBay จะรับผิดชอบคืนเงินค่าสินค้าให้กับผู้ซื้อ ด้วยเหตุนี้ทำให้มีผู้นิยมเข้ามาซื้อของใน
- eBay เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอีเบย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
- eBay มีระบบ Feedback ที่ผู้ซื้อสินค้าและผู้ขายสินค้า ที่เกิดการซื้อขายกัน จะต้องมาให้คะแนนความพอใจการทำธุรกรรมครั้งนั้น ระบบนี้จะทำให้ผู้ขายต้องรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการของตัวเองไว้เพื่อให้ได้มาซึ่ง Feedback ที่ดี เพราะผู้ขายสินค้าที่มี Feedback ที่ดีจะทำให้ตนเองนั้นมีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น กว่าคนอื่นๆที่ไม่มี Feedback หรือมี Feedback น้อย หรือมี Feedback ไปในทางลบ หากผู้ขายสินค้าท่านใดมี Feedback ที่ดีนั้นนอกจากจะส่งผลให้ตนเองนั้นมีโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้นแล้วก็ยังจะส่งผลให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน เพราะเมื่อผู้ขายมีประวัติที่ดี ผู้ซื้อก็ย่อมกล้าที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
- eBay มีกฏระเบียบและการตรวจสอบผู้ซื้อและผู้ขายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกับผู้ขาย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากสำหรับผู้ขายรายใหม่ในช่วงเริ่มต้น แต่ด้วยความเข้มงวดเช่นนี้ ทำให้อีเบย์เป็นตลาดที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยสูงทั้งผู้ซื้อสินค้าและผู้ขายสินค้า

แนะนำ eBay


สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแนะนำว่า eBay คืออะไร แล้วมันต่างจากเว็บไซท์ทั่วไป หรือเว็บ อื่นๆ อย่างไรบ้าง
มันมีดียังไง ทำไมคนทั่วโลกจึงซื้อ-ขายบนอีเบย์
- อีเบย์ เป็นเว็บไซท์ที่เหมือนเป็นตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ หรือเหมือนเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีผู้คนเดินพลุ่กพล่านทั้งวันตลอด24ชั่วโมง
- อีเบย์ มีสมาชิกรวมกันทั้งที่เป็นคนซื้อ และคนขายมากกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และในแต่ละวันมีคนเข้ามาในเว็บอีเบย์เพื่อมาทำการซื้อ-ขายสินค้าหลายล้านคน
- สมาชิกอีเบย์ที่เป็นผู้ขายสินค้า จะเหมือนกับเราไปเช่าแผงขายของในห้างสรพพสินค้า โดยอีเบย์จะมีเครื่องมือช่วยในการเปิดร้าน การลงรูปสินค้าต่างๆ การตั้งราคาสินค้า และระบบการชำระเงิน เมื่อมีการซื้อ-ขายเกิดขึ้น
- สมาชิกของอีเบย์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ดังนั้นหากสินค้าที่เราขาย เน้นกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ เว็บอีเบย์จะเป็นช่องทางที่เหมาะสมมากที่สุดในการขายสินค้าของคุณ
- เมื่อมีลูกค้าซื้อสินค้า ส่วนใหญ่แล้วจะชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือบัญชี Paypal ซึ่งผู้ขายสินค้าจะได้รับเงินจากผู้ซื้อสินค้าก่อน แล้วจึงค่อยส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อสินค้า
รูปแบบการขายสินค้าบนเว็บไซต์อีเบย์นั้นจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบคือ การขายสินค้าโดยการประมูล และการขายสินค้าแบบตั้งราคาขายทันที โดยผู้ขายสินค้ารายใหม่จะต้องเริ่มต้นด้วยการขายสินค้าเป็นแบบประมูลก่อน และเมื่อมีผู้ขายมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ของทาง eBay แล้วผู้ขายจึงจะสามารถขายสินค้าแบบตั้งราคาขายทันทีได้